2แนวรุกเจ๋ง-ดาวรุ่งแจ๋ว!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลอุ่นเครื่องอัดโอซาซูน่า – สยามกีฬา

เป็นการอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายได้อย่างสวยงาม หลังจาก ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ เอาชนะ โอซาซูน่า 3-1 โดย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เหมาสองประตู ส่วนอีกหนึ่งประตูมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ เฆซุส อเรโซ่ แนวรับของทีมเยือน

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ผู้เล่นอีกชุดจากเกมที่เสมอกับ แอธเลติก บิลเบา ในหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ซึ่งหลาย ๆ คนก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ซึ่งเราจะไปดูกันว่าแต่ละคนมีฟอร์มการเล่นเป็นอย่างไรกกันบ้าง

    ควีวิน เคลเลเฮอร์ 6

    เป็นเกมที่นายด่านไอริช แทบไม่ต้องทำอะไรมากเลย เพราะผู้เล่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาร่วมกันทำผลงานได้ยอดเยี่ยม จนกระทั่งถึงช็อตท้ายเกมที่ เคลเลเฮอร์ ต้องไปเก็บบอลในก้นตาข่าย เมื่อโดนยิงประตูตีไข่แตก

    เนโก วิลเลียมส์ 6

    ช่วงต้นเกมมีช็อตตัดบอลสวย ๆ และในช่วงครึ่งหลังเติมเกมบุกได้อย่างโดดเด่น

    โจ โกเมซ 6

    มีบางจังหวะที่เล่นแบบตายใจมากเกินไปนิดหน่อยในช่วงที่เขากำลังค่อย ๆ ปรับตัวเพื่อกลับมาลงเล่นให้ทีม    

    อิบราฮิม่า โกนาเต้ 7

    ถูกจับตามองว่าจะประสานงานในแผงแนวรับได้ดีแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้เจองานยากอะไรมากจากทีมคู่แข่ง

    คอสตาส ซิมิกาส  7

    ครอสบอลให้กับ ฟีร์มีโน่ ได้อย่างยอดเยี่ยม และสร้างปัญหาให้กับ โอซาซูน่า จากการเติมเกมบุก มีโอกาสสูงที่เขาจะได้ลงเล่นในนัดเจอ นอริช เนื่องจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มีอาการบาดเจ็บ

    ฟาบินโญ่ 7

    ตักบอลให้ มินามิโนะ ได้อย่างดีเยี่ยมจนเป็นที่มาของการได้ประตูแรก เรื่องเกมรับมีการโขกสกัดบอลอันตรายได้หลายครั้ง 

    เคอร์ติส โจนส์ 6

    โดนกระแทกเข้าที่สะโพกแล้วต่อด้วยตรงหน้า ก่อนจะออกจากสนามหลังจากเล่นไปได้ราวครึ่งชั่วโมง ถือว่าโดนอัดหนักพอตัวกับการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางในเกมนี้

    อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน 7

    สร้างความปั่นป่วนในพื้นที่กรอบเขตโทษ และมีลูกยิงไกลสุดหนักหน่วงแต่โดนเซฟได้

    ไดเค้ กอร์ดอน 7

    แข้งวัย 16 ปีสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริง และอาศัยความเร็วบวกกับการเคลื่อนที่อันชาญฉลาดสร้างเรื่องปวดหัวให้แก่ โอซาซูน่า  ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง

    โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ 8

    ทำประตูได้ตาม ดิโอโก้ โชต้า ที่ทำประตูได้หนึ่งวันก่อนไปติด ๆ และเกือบทำแฮตทริกได้จากลูกโขก

    ทาคูมิ มินามิโนะ 9

    เกือบทำประตูได้ตั้งแต่ต้นเกม แถมยังโดนริบเครดิตทำประตูที่ไปยิงแฉลบ เฆซุส อเรโซ่ อย่างไรก็ตามจากนั้นแข้งซามูไร มีส่วนสำคัญกับประตูแรกของ ฟีร์มีโน่ ที่ชิงต่อให้ ซิมิกาส ทำแอสซิสต์ และลูกปิดท้ายก็มาจากการเปิดบอลอันยอดเยี่มให้ แข้งแซมบ้า ทำประตู

    สำรอง 

    เบน วู้ดเบิร์น (แทน โจนส์) 7

    แข้งเวลส์ดูมีชีวิตชีวาที่ลุกจากมานั่งลงสนาม อย่างน้อยเขาก็เรียกเสียงฮือฮาได้บ้างในจังหวะที่ตอกส้นให้ แชมเบอร์เลน ในกรอบเขตโทษ    

    ดิว็อค โอริกี (แทน กอร์ดอน) 7

    ลงเป็นตัวสำรองแทน กอร์ดอน และเล่นแบบไม่กดดันอะไรมาก

    ติอาโก้ อัลกันตาร่า (แทน ฟาบินโญ่) 6

    ทำเสียลูกฟรีคิกจังหวะอันตรายหนึ่งหน และบางครั้งก็มีการผ่านบอลแบบเนียน ๆ ให้เห็นบ้าง

    รีส วิลเลี่ยมส์ (แทน โกเมซ) 6

     ลงมายืนเซ็นเตอร์แบ็ก และทำผลงานได้ดี จริง ๆ รีส น่าจะทำประตูได้สัก 1-2 ประตูเลยด้วยซ้ำ

    เลห์ตัน คล้าร์กสัน (แทน ฟีร์มีโน่) 7

    แฟน ๆ ชื่นชมในตัวเด็กดาวรุ่งคนนี้จากช็อตที่ผ่านบอลให้ วู้ดเบิร์น หลังจากลงสนามมาได้ไม่นาน

    จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (แทน มินามิโนะ) 6

    มีเวลาเล็กน้อยราว ๆ 20 นาทีสำหรับกัปตัน

    โอเว่น เบ็ค (แทน ซิมิกาส) 6

    ได้รับโอกาสลงสนามอีกครั้ง หลังลงเล่นแทน ร็อบโบ้ ในคืนก่อนหน้า

    คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ (แทน เนโก้ วิลเลียมส์)  –