Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

3 ไอเดียน่าสนใจที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ควรทดลองกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงพรี-ซีซัน – OPINION – 90min

Football Sponsored
Football Sponsored

ช่วงพรี-ซีซันเป็นช่วงเวลาที่โค้ชหลาย ๆ คนมักจะลองทำในสิ่งที่คิดว่าจะมีประโยชน์กับทีม ไมว่าจะเป็นการนำรูปแบบการฝึกซ้อมใหม่ ๆ มาใช้ การปรับเปลี่ยนเรื่องโภชนาการ รวมทั้งการทอดลองสลับตำแหน่งของผู้เล่นในทีม

สำหรับ เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก นั้นก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบลองอะไรใหม่ ๆ ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลอยู่เสมอ ดังที่เราจะเห็นได้จากเมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อนที่จับเอา อดัม ลัลลานา มาลองรับบทบาทกองกลางเชิงลึกหมายเลข 6 ซึ่งก้ได้ผลน่าพอใจทีเดียว

สำหรับในการเก็บตัวพรี-ซีซันครั้งนี้ถือได้ว่านายใหญ่ชาวเยอรมันได้นักเตะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ดังนั้นการทดลองไอเดียใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เผื่อไว้เมื่อยามคับขันหรือบางครั้งมันอาจจะได้ผลดีกว่าที่คาดก็ได้

Wolverhampton Wanderers v Liverpool – Premier League / Pool/ฟุตบอล

1. จับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลอ-แชมเบอร์เลน เล่นแบ็คขวา

ดิอ็อกซ์ ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับการโดนจับไปเล่นในตำแหน่ง “ฟอลส์ไนน์” ในแบบของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน ในช่วงการเตรียมทีมพรีซีซัน ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่ามีความสุขที่ได้มาอยู่จุดนี้และยังแอบขิงกองหน้าบราซิลเลียนว่า ถ้ากลับมารายงานตัวช้าอาจโดนแย่งตำแหน่งได้

อย่างไรก็ตามมีอีกคุณสมบัติหนึ่งของ แชมเบอร์เลน ที่นายใหญ่ชาวเยอรมันควรพิจารณา นั่นคือการจับเขาไปยืนในตำแหน่งแบ็คขวาเพื่อเป็นแบ็คอัพให้กับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 

กองกลางวัย 27 ปีแจ้งเกิดกับ อาร์เซนอล ในตำแหน่งวิงแบ็คขวา ในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในณะที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็อยากได้เขาไปร่วมทีมเพื่อลงเล่นในระบบ 3-4-3 ที่เจ้าตัวติดตั้งให้กับ เชลซี ก่อนที่นักเตะก็จะเลือกย้ายมา ลิเวอร์พูล 

และจากการลงเล่นในกับ หงส์แดง ในช่วงพีค ๆ ด้วยความสามารถในการเลี้ยงบอล การเอาชนะในการดวล 1-1 การหาพื้นที่ทั้งมีบอลและไม่มีบอล และเซ้นส์ในการคัฟเวอร์ตำแหน่งฟูลแบ็ค น่าสนใจว่าเมื่อยามที่ เทรนท์ อาร์โนลด์ ไม่สามารถลงสนามได้ อ็อกซ์เหลด ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

West Bromwich Albion v Liverpool – Premier League / Pool/ฟุตบอล

2. เคอร์ติส โจน กับตำแหน่งกองหน้าริมเส้น

เจ้าหนู เคอร์ติส โจนส์ เคยรับหน้าที่ในการลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าระบบ 3 คนมาแล้วในการเล่นให้กับทีมชุดใหญ่รวมทั้งการเล่นในทีมเยาวชน แต่เจ้าตัวอาจจะได้ลงเล่นบ่อยขึ้นในช่วงพรี-ซีซันนี้เพื่อทดลองอะไรบางอย่าง

ทักษะของดาวเตะวัย 20 ปีนั้นเพียบพร้อมที่จะลงสนามในตำแหน่งนี้ ด้วยความเป็นตัวรุกธรรมชาติ เซ้นส์ในการทำประตู เทคนิค ความดุดัน และการเล่นบอลในพื้นที่สุดท้ายที่ค่อนข้างเนียนตา

การทดลองใช้งาน โจนส์ นั้น เยอร์เก้น คล็อปป์ อาจศึกษาจากกรณีของ ฟิล โฟเด้น ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่ง เป๊ป กวาร์ดิโลา เชื่อมั่นว่าดาวรุ่งของเขานั้นเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ในเกมรุกและมองว่าตำแหน่งที่เหมาะสมคือกองหน้าตัวริมเส้น ดังจะเป็นได้จากในศึก ยูโร 2020 ที่ผ่านมา ที่เจ้าตัวมักได้ลงสนามในฝั่งขวาของระบบกองหน้า 3 ตัวอยู่หลายนัด

โจนส์ นั้นอาจจะไม่เหมือนกับ โฟเด้น เลยซะทีเดียว แต่เพื่อให้นักเตะได้มีความคุ้นเคยมากขึ้น คล็อปป์ อาจจะใช้งานเขาในตำแหน่งดังกล่าวมากขึ้นในขณะที่ 3 กองกลางอย่าง ติอาโก้ อัลคันทารา, ฟาบินโญ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นั้นลงตัวอยู่แล้ว

Liverpool v Crystal Palace – Premier League / Gareth Copley/ฟุตบอล

3. ลอง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค

เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ใช่กุนซือที่ชื่นชอบการเล่นระบบกองหลัง 3 ตัวซักเท่าไหร่ แต่คงน่าสนใจไม่น้อยหากได้เห็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงไปเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คด้านกว้างดูบ้าง

โค้ชหลายคนมักจับเอาพวกดาวรุ่งมาเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คเมื่อหันมาใช้ระบบนี้ แต่สำหรับลูกหม้อ หงส์แดง แล้วเขาไม่กลับไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เมื่อลงสนามให้กับทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

การปรับ อาร์โนลด์ มาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คด้านกว้าง เราจะได้เห็นเขาได้บอลมากขึ้นและมีพื้นที่และเวลาในการสร้างสรรค์เกมจากแดนหลังสู่แดนกลางมากกว่าเดิม ในขณะที่ก็สามารถลดความกังวลเรื่องเกมรับลงไปได้มากเช่นกัน

หากย้ายมาเล่นในตำแหน่งนี้จริง ๆ ดาวเตะวัย 22 ปีอาจมีส่วนร่วมในกรอบเขตโทษน้อยลงกว่าเดิม แต่ในทางกลับกันก็จะทำให้เขาครองบอลได้นานขึ้น จะทำให้เขาสามารถแสดงศักยภาพในการสร้างสรรค์เกมจากแดนหลังให้กับทีมได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย 

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.