Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

ใกล้วันอีด(รายอ)แล้ว มาดูวิธีการละหมาดรายอที่บ้านกัน!! – ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ TrueID In-Trend แพลตฟอร์มบทความ Lifestyle สำหรับคนหนุ่มสาว เกี่ยวกับชุมชนและความหลงใหลใน ชีวิตประจำวัน, ร้านอาหาร และแฟชั่นความงาม

Football Sponsored
Football Sponsored

      อีกไม่กี่วันก็รายอแล้ว!! ฮึกก!! แต่โควิดก็ดูเหมือนจะไม่หายไป แถมยอดผู้ติดเชื้อสะสมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลย

งึ้ยย แล้วแบบนี้เราจะละหมาดรายอได้ไหม??

                                                             รูปภาพจาก : Meruyert Gonullu / pexels

        จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เนี่ยบางพื้นที่ จุฬาราชมนตี ก็ได้ประกาศแล้วว่าไม่อนุญาตให้ทำการละหมาดในพื้นที่สาธารณะเหมือนปีที่ผ่านๆมาได้ แต่บางจังหวัดก็ยังคงทำการละหมาดได้เหมือนเดิม เพียงแต่ต้องมีการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ให้เรียบร้อย ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 นั่นเอง(ถ้าใครไปละหมาดก็ขอให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง น้าา)

                                                                    รูปภาพจาก : Uriel Mont / pexels

        เนื่องจากเป็นการรวมตัวคนหมู่มาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 ได้ง่ายมากขึ้น หลายๆคนก็อาจจะกังวลว่าเราจะเสี่ยงไปไหมที่จะไปละหมาดในช่วงโควิดแบบนี้ วันนี้ mist ก็มีวิธีดีๆมาแนะนำเพื่อนๆ ทั้งได้ผลบุญและไม่เสี่ยงติดโควิดด้วย เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่เป็นกังวลและเพื่อนๆที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกห้ามให้ทำการละหมาด วีธีนั้นก็คือ การละหมาดรายอที่บ้านนั่นเอง 

    ตอนนี้ได้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 เกิดขึ้น ดังนั้นการละหมาดรายอที่บ้านจึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และได้รับผลบุญแน่นอน    เพื่อนๆไม่ต้องกังวลไปน้ะ ไม่เสียแน่เปล่านอน

    ว้าวววๆๆ ได้ยินแบบนี้เพื่อนๆหลายๆคนคงดีใจ เป็นปลื้มมมากๆ งั้นเรามาดูวิธีละหมาดรายออิดิลฟิตรีกันเลยดีกว่า

                                                                  รูปภาพจาก : Tima Miroshnichenko / pexels

   การละหมาดรายอที่บ้านสามารถปฏิบัติเหมือนที่เราไปละหมาดรายอที่มัสยิดได้เลยจ้าา ในส่วนของคุตบะห์ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้จ้า แต่แนะนำให้มีการพูดคุยกันหลังละหมาดเป็นซุนนะห์น้าาา

     การละหมาดรายออิดิลฟีตรี มีทั้งหมด 2 รอกาอัตจ้าา

 วิธีการละหมาด

      1) ให้ทำการตักบีรรอตุลอิหรอม พร้อมกับ

              นิยาตว่า ” อุซ็อลลีซุนนะตะอี้อิ้ลฟัตร ร๊อกอะไตนิมะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา “

              นึกในใจว่า ” ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตอีดิ้ลฟิตร 2 ร่อกะอัต มะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา “

      2) จากนั้นให้อ่านดุอาอฺอิฟติตะห์ ดังนี้

                                      وَجَّهْتُ وَجْهِيَ لِلَّذِيْ فَطَرَ السَّمَاوَاتِ وَاْلأَرْضَ حَنِيْفًا مُسْلِمًا وَمَا أَنَا مِنَ الْمُشْرِكِيْنَ

               ، إِنَّ صَلاَتِيْ وَنُسُكِيْ وَمَحْيَايَ وَمَمَاتِيْ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ ، لاَ شَرِيْكَ لَهُ وَبِذَلِكَ أُمِرْتُ وَأَنَا مِنَ الْمُسْلِمِيْنَ

   อ่านว่า  ” วัจญะห์ตู้ วัจฮี่ยาลิลลาซีย์ ฟ่าตอรอซซ่ามาว่าตี้วัลอัรฎ่อ ห้านีฟัมมุสลีเมาว์ ว่ามาอานา มีนัลมุชรีกีน

                 อินน่าซอลาตี ว่านูซูกี ว่ามะห์ยาย่า ว่าม่ามาตี ลิลลาฮี่ ร้อบบิลอาล่ามีน ลาซ่ารีก้าล้าอู ว่าบิซาลีก้า อู้มิรตู้ว่าอานา มีนัลมุสลีมีน ”           

      3) แล้วให้ทำการตักบีร 7 ครั้ง โดยระหว่างการตักบีรในแต่ละครั้ง

ให้กล่าวว่า “ซุบฮานั้ลลอฮ์ วัลฮัมดุลิ้ลลาห์ ว่าลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮุวัลลอฮุอักบัร”

      4) หลังตักบีรครั้งที่ 7 ให้อ่านฟาตีฮะห์ ตามด้วยซูเราะห์ซับบีฮิส หรือซูเราะห์กอฟ หรือซูเราะฮ์อื่นๆ ก็ได้ ที่เราจำได้

หลังอ่านซูเราะห์จบก็รอเกาะแล้วละหมาดตามปกติได้เลยจ้าา

      5) ต่อมารอกาอัตที่สองให้ทำการตักบีร 5 ครั้ง ระหว่างการตักบีร

ให้กล่าวว่า “ซุบฮานั้ลลอฮ์ วัลฮัมดุลิ้ลลาห์ ว่าลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮุวัลลอฮุอักบัร” เหมือนรอกาอัตแรกเลย

      6) หลังตักบีรครั้งที่ 5 ให้อ่านซูเราะห์อัลฟาตีฮะห์ และตามด้วยซูเราะอื่นๆ

             ถ้าหากเขาอ่านซูเราะห์ ซับบีฮิส ในรอกาอัตแรก รอกาอัตที่ 2 ให้อ่าน ซูเราะห์ อัลฆอซียะห์

             หรือถ้าหากเขาอ่านซูเราะห์ กอฟ ในรอกาอัตแรกให้เขาอ่านซูเราะห์ อัลกอมัร ในรอกาอัตที่ 2 

หรือจะอ่านซูเราะฮ์อื่นๆ ที่เราสะดวก เพราะจำได้ก็ได้

     7) จากนั้นก็ละหมาดเหมือนละหมาดอื่นทั่วไป จนให้สลามเลยจ้าา

   อีก 2 วันก็รายอแล้วมากล่าวอวยพรวันอีดกันดีกว่า 

            ”  (ตะก็อบบะ ลัลลอฮุ มินนา วะมินกุม)     تقبل الله منا ومنكم   “

  “ขออัลลอฮฺทรงตอบรับการงานของเราและการงานของพวกท่าน”

สุขสันต์วันรายอน้าา เพื่อนๆทุกคน ขอให้มีความสุขกับวันรายอน้า

ช่วงนี้โควิดก็ยังคงระบาดอยู่ ออกไปไหน ก็ระวังตัวกันด้วยนะ

สวมแมสก่อนออกจากบ้าน รักษาระยะห่าง และอย่าลืมล้างมือบ่อยๆนะ

  เขียนโดย : kaikung 🙂

  อ้างอิงข้อมูลจาก : http://islamhouse.muslimthaipost.com

  ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบจากเว็บ : www.pexels.com

  เครดิตภาพปก โดย Kaikung

อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.