Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

“เบรนท์ฟอร์ด vs ลิเวอร์พูล” 00.30 น. คืนนี้ เช็กสถิติ ความพร้อม ช่องถ่ายทอดสด | NATIONTV | LINE TODAY

Football Sponsored
Football Sponsored

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคืนนี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เตรียมไล่ล่าพื้นที่ท็อป 4 ด้วยการบุกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด เช็กสถิติ ความพร้อมล่าสุด และช่องทางชมการถ่ายทอดสดได้ที่นี่

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เกมมันเดย์ไนท์ “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด ทีมอันดับ 10 ของตาราง จะเปิดสนาม เบรนท์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ในเวลา 00.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 1 และ 2
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด เบรนท์ฟอร์ด มี 23 แต้มจาก 17 นัด โดยฟอร์มในลีก 5 นัดหลังไม่แพ้ใคร ซึ่งถือเป็นผลงานยาวนานที่สุดของพวกเขาในลีกสูงสุดตั้งแต่ที่เคยทำได้ 6 เกมติดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ปี 1939 และหากนัดนี้เอาชนะได้อีกก็จะขยับอันดับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มลุ้นพื้นที่ลุยฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้าได้ด้วย ขณะที่ ลิเวอร์พูล มี 28 แต้มจาก 16 นัด ถ้าชนะก็จะแซง สเปอร์ส ขึ้นรั้งที่ 5 พร้อมไล่จี้ทีมอันดับ 4 อย่าง แมนฯยูไนเต็ด เหลือแค่แต้มเดียวทันที
ผลการพบกันของทั้ง 2 ทีม

  • 16/01/22 ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0
  • 26/09/21 เบรนท์ฟอร์ด เสมอ ลิเวอร์พูล 3-3

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เบรนท์ฟอร์ด

  • 31/12/22 ชนะ เวสต์แฮม 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
  • 26/12/22 เสมอ สเปอร์ส 2-2 (พรีเมียร์ลีก)
  • 17/12/22 เสมอ โวล์ฟสบวร์ก 2-2 (กระชับมิตร)
  • 13/12/22 แพ้ เซลต้า บีโก้ 1-3 (กระชับมิตร)
  • 12/11/22 ชนะ แมนฯซิตี้ 2-1 (พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล

  • 31/12/22 ชนะ เลสเตอร์ 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
  • 27/12/22 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (พรีเมียร์ลีก)
  • 23/12/22 แพ้ แมนฯซิตี้ 2-3 (ลีก คัพ)
  • 16/12/22 ชนะ เอซี มิลาน 4-1 (กระชับมิตร)
  • 11/12/22 แพ้ ลียง 1-3 (กระชับมิตร)

สภาพความพร้อมล่าสุด
เบรนท์ฟอร์ด
“ผึ้งน้อย” ของกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ ผู้จัดการทีมชาวเดนมาร์ก ยังคงไม่สามารถใช้งาน แชนดอน แบ็ปติสต์, คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ และ แอรอน ฮิคกี้ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมทั้งยังต้องเช็กความฟิตของ ไอแวน โทนี่ย์, โธมัส สตราโคช่า และ แฟร้งค์ ออนเยก้า ที่มีอาการเจ็บรบกวนเล็กน้อย โดยเฉพาะตัวความหวังอย่าง ไอแวน โทนี่ย์ ที่เพิ่งเจ็บจนโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมพบ เวสต์แฮม เมื่อ 3 วันก่อน

  • เจ็บ : แชนดอน แบ็ปติสต์, คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์, แอรอน ฮิคกี้
  • ทดสอบความฟิต : ไอแวน โทนี่ย์, โธมัส สตราโคช่า, แฟร้งค์ ออนเยก้า
  • แบน/พัก : –

ลิเวอร์พูล
“หงส์แดง” ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ยังคงไม่มี อาร์ตูร์ เมโล่, ดีโอโก้ โชต้า, หลุยส์ ดิอาซ และ เคอร์ติส โจนส์ ที่ยังไม่หายเจ็บ รวมทั้งยังต้องเช็กความฟิตของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เจมส์ มิลเนอร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่เพิ่งลงซ้อมหลังหายเจ็บกลับมา นอกจากนี้ โคดี้ กัคโป ดาวเตะตัวใหม่ น่าจะยังไม่มีส่วนร่วมแมตช์นี้ หลังยังไม่ได้ซ้อมกับทีม แต่ยังมีข่าวดีคือจะได้ตัว ฟาบินโญ่ กลับคืนสู่ทีมอีกครั้งหลังจากที่พลาดลงสนามเกมที่แล้วเพราะไปเฝ้าภรรยาคลอดบุตร

  • เจ็บ : อาร์ตูร์ เมโล่, ดีโอโก้ โชต้า, หลุยส์ ดิอาซ, เคอร์ติส โจนส์
  • ทดสอบความฟิต : โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เจมส์ มิลเนอร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
  • แบน/พัก : โคดี้ กัคโป

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

  • เบรนท์ฟอร์ด (3-5-2) : ดาบิด ราย่า – มาเธียส ยอร์เกนเซ่น, เบน มี, อีธาน พินน็อค – มาดส์ โรเออร์สเลฟ ราสมุสเซ่น, จอช ดาซิลวา, มาเธียส เยนเซ่น, คริสเตียน นอร์การ์ด, ริโก้ เฮนรี่ – บริย็อง เอ็มเบวโม่, โยอัน วิสซ่า (ไอแวน โทนี่ย์)
  • ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส – ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.