เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เชื่อว่าทีมของเขาเสีย 3 ประตูที่ ‘ไม่จำเป็น’ ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากที่หงส์แดงตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย คาราบาว คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา (พฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565) ประตูจากเออร์ลิ่ง ฮาลันด์, ริยาด มาห์เรซ และ นาธาน อาเก้ ทำให้เรือใบสีฟ้าเอาชนะไปแบบสุดตื่นเต้น 3-2 โดยทางฝั่งลิเวอร์พูลนั้นได้ประตูจากฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์
ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขึ้นนำ 3 ครั้งในเกม ครั้งแรกจากฮาลันด์ ซึ่งทำประตูให้แมนฯ ซิตี้ ทันทีหลังจากกลับมาลงสนามได้เพียงแค่ 10 นาทีหลังเบรกฟุตบอลโลก แต่หลังจากนั้นคาร์วัลโญ่ก็มาทำประตูตีเสมอให้ทีมเยือน ก่อนที่ซาลาห์จะทำประตูตีเสมอให้หงส์แดงอีกครั้ง เพียงหนึ่งนาทีหลังจากที่มาห์เรซคืนสถานะผู้นำให้ทัพเรือใบสีฟ้าในช่วงต้นครึ่งหลัง ลูกทีมของคล็อปป์ที่ยิงเข้ากรอบไปเพียง 2 ครั้งยังมีความรั่วในแผงหลังและโดนเขี่ยตกรอบหลังจากลูกโหม่งของอาเก้ในนาทีที่ 58 สร้างความแตกต่างระหว่างสองทีม
กุนซือลิเวอร์พูลให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports หลังสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาว่า “แน่นอนว่าเป็น 15 นาทีแรกที่ยากสำหรับเรา เราเล่นในรูปแบบที่เราไม่คุ้นเคย ช่วงปรีซีซั่นเรามีบ็อบบี้อยู่ตรงกลาง, อ็อกซ์เลดเป็นปีกซึ่งช่วยได้หลายอย่าง จากนั้นเราต้องเปลี่ยนหลังจากเซสชั่นซ้อมครั้งสุดท้าย คุณคงเห็นว่าเราต้องใช้เวลาปรับตัว” “เมื่อเรามีความรัดกุมเราก็จะมีจังหวะของเรา พวกเขาเป็นทีมที่สุดยอดซึ่งทำสิ่งต่างๆ ได้ดีมาก ในตำแหน่งกองกลาง คุณต้องเป๊ะมากๆ 15 นาทีแรก เรามีปัญหากันจริงๆ และนั่นทำให้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นหายไป”
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ยอมรับว่าแมนฯ ซิตี้ เล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะมาห์เรซ ที่ทำประตูที่สองให้เจ้าถิ่นจากจังหวะที่โรดรี้ ได้บอลกลางสนามโยนเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ดาวเตะชาวแอลจีเรียที่แตะบอลด้วยซ้ายหนีการประกบของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก่อนจะซัดด้วยซ้ายบอลเข้ามุมประตูไปอย่างสวยงาม “เราทำงานกันอย่างหนัก เราทำสิ่งที่ดี แต่ผมจะพูดอีกครั้งว่ามันยังไม่ดีพอสำหรับคืนนี้ นั่นคือแมนฯ ซิตี้ในบ้านของพวกเขา มันจะเป็นเกมที่ยากอย่างเหลือเชื่อเสมอ” “ครึ่งแรกมันดี ทุกอย่างโอเค จากนั้นพอเริ่มครึ่งหลังพวกเขาทำประตูที่สองได้จากการยิงครั้งแรก มันเป็นผลงานระดับโลกจากริยาด แต่เราสามารถทำได้มากกว่านี้ก่อนหน้านั้น”
“ประตูที่เราเสียล้วนไม่จำเป็น เมื่อคุณเห็นประตูที่สาม เราเปลี่ยนตัวก่อนหน้านั้นและนั่นหมายความว่าต้องจัดระบบใหม่ เราดูบอล เราทุกคนคาดหวังว่านาธานจะชนะในการโหม่งลูกนั้น แต่เบื้องหลังนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เล่นแมนฯ ซิตี้สองคน” “ประตูที่เสียไปล้วนไม่จำเป็น ที่เหลือเป็นเกมที่ยากสำหรับทั้งสองทีม เรามีช่วงเวลาการเล่นที่ดี เล่นฟุตบอลได้ดี และน่าจะทำประตูได้มากกว่านี้ มันเป็นผลการแข่งขันที่เราต้องอยู่กับมัน แค่นั้นแหละ”
คล็อปป์ยอมรับว่าคืนนี้ทีมของเขาไม่ได้ดีที่สุด “มันเป็นเกมที่มีความเข้มข้นสูง มันเป็นเรื่องปกติ” เขากล่าวเสริม “เราเล่นเกมได้ดี แต่มันยังไม่เพียงพอในคืนนี้ เราไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของเกมของเราในคืนนี้ มีหลายอย่างที่เราสามารถทำได้ในคืนนี้”
คล็อปป์ ยังเผยก่อนเกมว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในการฝึกซ้อมซึ่งทำให้กองหน้ารายนี้ไม่มีรายชื่อในเกมไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดิมทีคาดหมายว่าแข้งชาวบราซิลจะมีส่วนร่วมกับทีมในเกมคาราบาว คัพ รอบ 4 หลังจากลงเล่นทั้งสองแมตช์อุ่นเครื่องในช่วงพักเบรกฟุตบอลโลก กองหน้ารายนี้ไม่ได้อยู่ในทีมของบราซิลสำหรับการแข่งขันที่กาตาร์ แต่ล่าสุดกุนซือชาวเยอรมันยืนยันกับ Sky Sports ว่า ฟีร์มิโน่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในการฝึกซ้อมเมื่อวันอังคารที่ 20 ธันวาคม ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถมีส่วนร่วมในรอบที่สี่ได้
“เราใช้ผู้เล่นที่สามารถลงซ้อมได้ทุกเซสชั่นและได้เบรคฟุตบอลโลกลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นบ๊อบบี้ ที่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บเมื่อสองวันก่อนในการฝึกซ้อม” คล็อปป์กล่าว “ไม่ได้เจ็บหนักแต่ก็ถือว่ามากพอสำหรับช่วงนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ดาร์วินได้ออกสตาร์ท เขาสามารถออกสตาร์ทได้อยู่แล้ว แต่ดาร์วินจะได้ออกสตาร์ท” “นอกเหนือจากนั้น คนอื่นๆ ก็เล่นได้ทั้งหมด ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเฮนโด้เล่นได้ ฟาบินโญ่ก็เล่นได้ อลิก็เล่นได้ แต่นั่นชัดเจนสำหรับรายการนี้” “มีแค่เวอร์จิลที่เพิ่งมาถึงเมื่อวาน เราให้เวลาเขาอีก 2 วัน เพราะเขาคือผู้เล่นตลอดเวลาของเราจริงๆ” “เขาลงเล่นทุกเกมให้เรา ลงเล่นทุกเกมให้กับฮอลแลนด์ ดังนั้นเราคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่จะให้เวลาเขาอีกสองวัน เพราะเห็นได้ชัดว่าส่วนสำคัญของฤดูกาลรออยู่ข้างหน้าเรา และเราต้องการเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้แน่ใจว่าเราทำถูกวิธี”
อาการบาดเจ็บของฟีร์มิโน่เท่ากับเพิ่มจำนวนนักเตะบาดเจ็บของทีม หงส์แดงไม่มีหลุยส์ ดิอาซ และดิโอโก้ โชต้า อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจะคาดหวังว่าฟีร์มิโน่จะกลับมาฟิตอีกครั้งสำหรับตารางการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง ลิเวอร์พูลจะพยายามข้ามผ่านความพ่ายแพ้ในบอลถ้วยของพวกเขาเมื่อต้องลงทำศึกพรีเมียร์ ลีก ด้วยการไปเยือนแอสตัน วิลล่า ในวันบ็อกซิ่งเดย์ ก่อนจะเปิดบ้านต้อนรับเลสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 30 ธันวาคม 2565
ขอบคุณ : twitter Liverpool FC @LFC
This website uses cookies.