คอลัมน์หมายเลข 7 : บอลโลกใกล้จบ ปัญหาในไทยยังไม่จบ

ข่าวภาคค่ำ – เหลืออีกแค่ 9 วัน ศึกดวลแข้งในฟุตบอลโลกก็จะลาโรงกันไปแล้ว แต่ปัญหาการถ่ายทอดสดในไทยยังไม่จบตามไปด้วย ล่าสุด กสทช. ให้ กกท. คืนเงิน 600 ล้านบาท เรื่องเหล่านี้จะจบอย่างไร มีสิ่งไหนที่ต้องตรวจสอบต่อ ติดตามในคอลัมน์หมายเลข 7 กับ คุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร

กว่าจะได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ว่ายากแล้ว ดรามาจากปัญหาการถ่ายทอดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนยากที่จะจบเช่นกัน ล่าสุด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มีมติเรียกเงิน 600 ล้านบาท คืนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. โดยให้เหตุผลว่า กกท.ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงที่ทำร่วมกัน ในเรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จากการที่ กกท. มอบสิทธิถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 32 คู่ ให้กับกลุ่มทรู แต่กลับไม่สามารถรับชมผ่านกล่องไอพีทีวีได้ ปล่อยให้ “จอดำ” จึงเรียกคืนเงิน 600 ล้านบาท ภายใน 15 วัน พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 5 ต่อปี แต่ กกท.สู้กลับ ยืนยันปฏิบัติถูกต้อง ไม่คืนเงินให้ กสทช. แม้ต้องจบที่การฟ้องร้อง

สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีปัญหาตั้งแต่การระดมเงินทุนเพื่อจ่ายค่าลิขสิทธิ์ โดยได้เงินจาก 2 แหล่ง คือ จากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ภายใต้ร่มเงาของ กสทช. จำนวน 600 ล้านบาท ซึ่งก็ยังมีข้อกังขาเป็นการใช้เงินที่ถูกวัตถุประสงค์หรือไม่ ส่วนที่เหลือเป็นเงินจากภาคเอกชน ซึ่งก็ยังไม่พอกับค่าลิขสิทธิ์ที่กำหนดในครั้งแรกสูงถึง 1,600 ล้านบาท ก่อนต่อรองจนฟีฟ่าใจอ่อนลดให้เหลือ 1,200 ล้านบาท แต่ระหว่างการถ่ายทอดสดก็ยังมีปัญหาความไม่พอใจ ที่เอกชนบางรายได้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่น เรื่องราวยังบานปลาย กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชน ถึงขั้นฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ จบที่ศาลฯ คุ้มครองชั่วคราว ห้าม AIS Playbox ถ่ายทอดสด แต่เรื่องก็ยังไม่จบแค่นี้ ยังมีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ จากสัญญาณถ่ายทอดสดที่รั่วไหลไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนฟีฟายื่นคำขาด ไม่แก้ไขเจอจอดำ กระทั่ง กสทช. สั่งจอดำในระบบดาวเทียม C-Band แต่ยังมีมหากาพย์ต่อ เมื่อ กสทช.เรียกคืนเงิน 600 ล้านบาท จาก กกท. เรื่องนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำหรับหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ต้องทบทวน

ย้อนกลับไป การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่เกิดขึ้นได้ในครั้งนี้ มีการให้เครดิตไปที่ บิ๊กป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เปิดฉากสนับสนุนเต็มที่ แต่ในวันที่เต็มไปด้วยปัญหา ยังไม่เห็นมีใครพูดว่าฝ่ายการเมืองควรต้องร่วมรับผิดชอบกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร