สเตฟานี เฮการ์ตี

ผู้สื่อข่าวด้านประชากร บีบีซี

สหประชาชาติระบุว่า ปัจจุบันโลกมีจำนวนประชากรมากถึง 8 พันล้านคนแล้ว โดยเพิ่มจาก 7 พันล้านคน ภายในเวลาเพียง 11 ปี

อย่างไรก็ดี หลังจากจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างมากช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ตอนนี้การเติบโตของจำนวนประชากรเริ่มชะลอตัวลง โดยอาจต้องใช้เวลาอีก 15 ปีกว่าจำนวนประชากรจะแตะระดับ 9 พันล้านคน และสหประชาชาติคาดว่าประชากรจะเพิ่มไม่ถึง 1 หมื่นล้านคน จนกว่าจะถึงปี 2080 

เป็นเรื่องยากที่จะนับจำนวนประชากรได้อย่างแม่นยำ โดยสหประชาชาติยอมรับว่าตัวเลขนี้อาจเก่าไปแล้วภายในปีหนึ่งหรือสองปี  

แต่ตัวเลขคาดการณ์ที่ดีที่สุดชี้ว่าประชากรโลกน่าจะเกิน 8 พันล้านคน เมื่อถึงวันที่ 15 พ.ย.

ในปีที่ผ่าน ๆ มา สหประชาชาติจะเลือกเด็กทารกบางคนมาเป็นตัวแทนเด็กคนที่ 5 พันล้าน, คนที่ 6 พันล้าน และคนที่ 7 พันล้านของโลก มาดูกันว่าเรื่องราวของเด็กเหล่านี้สามารถสะท้อนอะไรเกี่ยวกับจำนวนประชากรโลกได้ 

คนที่ 5 พันล้าน

ไม่กี่นาทีหลังลืมตามองโลกเมื่อเดือน ก.ค. ปี 1987 มาเทจ กัสปาร์ โดนถ่ายรูปพร้อมแฟลชจ้า มีกลุ่มนักการเมืองใส่สูทยืนรายล้อม 

ขณะติดอยู่ท้ายขบวนรถภายนอกโรงพยาบาลที่ชานกรุงซาเกร็บ เมืองหลวงของโครเอเชีย เจ้าหน้าที่สหประชาชาติจากสหราชอาณาจักร อเล็กซ์ มาร์แชล บอกว่า เขารู้สึกว่าตัวเองมีส่วนต้องรับผิดชอบกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น 

“พวกเราดูตัวเลขคาดการณ์แล้วได้ความคิดขึ้นมาว่าจำนวนประชากรโลกจะเลย 5 พันล้านคนในปี 1987” มาร์แชล เล่า “และวันที่ที่ได้จากการคำนวณสถิติตรงกับวันที่ 11 ก.ค.”แล้วพวกเขาก็ตัดสินใจกำหนดให้ มาเทจ กัสปาร์ เป็นประชากรคนที่ 5 พันล้านของโลก แม้ว่านี่จะทำให้นักประชากรศาสตร์ของสหประชาชาติไม่พอใจ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรเลือกคนแค่คนเดียวจากเด็กหลายคน

แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำ “มันเป็นการเลือกคนให้เป็นตัวแทนของตัวเลข” มาร์แชล เล่า “เราไปค้นหาดูว่าในวันนั้นเลขาธิการสหประชาชาติจะไปอยู่ที่ไหน แล้วก็เริ่มจากตรงนั้น” 

35 ปีผ่านไป เด็กคนที่ 5 พันล้านของโลก พยายามจะลืมพิธีรีตองที่เกิดขึ้นในวันเกิดของเขา หน้าเฟซบุ๊กของเขาระบุว่าเขาอาศัยอยู่ในกรุงซาเกร็บ เขาแต่งงานแล้วและก็ทำงานเป็นวิศวกรเคมี แต่เขาหลีกเลี่ยงไม่ให้คนสัมภาษณ์และก็ปฏิเสธที่จะคุยกับบีบีซี

“ผมไม่คิดจะกล่าวโทษเขาเลย” มาร์แชล กล่าว โดยบอกว่ายังจำได้ดีว่ามีสื่อมวลชนมากมายแค่ไหนไปรุมทำข่าวการเกิดของเขา 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีคนเพิ่มมาในโลกอีก 3 พันล้านคน แต่อีก 35 ปีต่อจากนี้ อาจมีคนเพิ่มขึ้นอีกแค่ 2 พันล้านคน และจากนั้นมีแนวโน้มว่าจำนวนประชากรจะคงที่ 

คำบรรยายภาพ,

แอดนาน เมวิก ประชากรคนที่ 6 พันล้านของโลก

คนที่ 6 พันล้าน

นอกกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ ซาเดีย ซัลตานา ออยชี กำลังช่วยแม่ปอกมันฝรั่ง ครอบครัวเธอต้องย้ายออกมาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้หลังจากธุรกิจขายผ้าได้รับผลกระทบจากโควิด

เด็กผู้หญิงวัย 11 ขวบคนนี้เกิดเมื่อปี 2011 โดยถูกนับว่าเป็นหนึ่งในเด็กคนที่ 7 พันล้านของโลก หลังเกิดเลยเที่ยงคืนมาหนึ่งนาที เธอถูกรายล้อมไปด้วยทีมงานถ่ายทำรายการทีวีและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แม้ว่านี่จะทำให้ครอบครัวเธองุนงงแต่พวกเขาก็ดีใจ 

แม้ว่าพ่อของเธอหวังจะได้ลูกผู้ชาย แต่ตอนนี้เขาก็ดีใจที่มีลูกสาวสามคนที่ขยันตั้งใจทำงาน ลูกสาวคนโตเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนออยชีอยากจะเป็นหมอ 

“เราไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น และโควิดก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างยากเย็นขึ้น แต่ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ฝันของลูกเป็นจริง” 

ตั้งแต่ออยชีเกิดมา ประชากรในบังกลาเทศเพิ่มขึ้นมาอีก 17 ล้านคน ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นความสำเร็จทางการแพทย์ แต่อัตราการเติบโตของจำนวนประชากรลดลงมากแล้วในตอนนี้ ในปี 1980 ผู้หญิงบังกลาเทศมีลูกโดยเฉลี่ยมากกว่า 6 คน แต่ตอนนี้ตัวเลขเฉลี่ยน้อยกว่า 2 คนแล้ว  นี่เป็นผลจากการที่ประเทศให้ความสำคัญกับการศึกษามากขึ้น ผู้หญิงที่มีการศึกษามากขึ้นเลือกที่จะมีครอบครัวขนาดเล็กกว่าเดิม 

ระดับการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินจำนวนประชากรโลกในอนาคต โดยมีหน่วยงาน 3 หน่วยงานที่คาดการณ์ตัวเลขเรื่องนี้ ได้แก่ สหประชาชาติ, สถาบันเพื่อการวัดและประเมินผลด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน และศูนย์ IIASA-Wittgenstein ในกรุงเวียนนา 

ขณะที่สหประชาชาติบอกว่าประชากรโลกจะเพิ่มสูงสุดเมื่อถึงทศวรรษ 2080 ที่ 1.4 หมื่นล้านคน สถาบันเพื่อการวัดและประเมินผลด้านสุขภาพ และศูนย์ IIASA-Wittgenstein เชื่อว่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น โดยจะอยู่ที่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านคน ระหว่างทศวรรษ 2060 ถึง 2070 

แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่การคาดการณ์เท่านั้น ตั้งแต่ออยชีเกิดเมื่อปี 2011 มีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นบนโลกอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

“เราไม่ได้คาดคิดเลยว่าอัตราการเสียชีวิตจากโรคเอดส์จะน้อยลงขนาดนี้ ไม่ได้คาดคิดว่าการแพทย์จะช่วยชีวิตคนไว้ได้มากขนาดนี้” ซาเมีย เคซี นักประชากรศาสตร์ที่ศูนย์ IIASA ระบุ เขาต้องเปลี่ยนสูตรคำนวณเพราะว่าอัตราการเสียชีวิตในเด็กที่ดีขึ้นทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เพราะเด็กที่รอดชีวิตมาก็จะโตขึ้นและไปมีลูกเป็นของตัวเองต่อไป 

นอกจากนี้ นักประชากรศาสตร์ก็ต้องตกใจที่คนมีลูกกันน้อยลงมาก อย่างที่เกาหลีใต้ ผู้หญิงมีลูกโดยเฉลี่ยแค่ 0.81 คน โดยนี่เป็นสิ่งที่หลายประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องรับมือ 

ครึ่งหนึ่งของประชากรใหม่ 1 พันล้านคนจะมาจากแค่ 8 ประเทศเท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในแอฟริกา ขณะที่ในประเทศส่วนใหญ่ผู้หญิงจะมีลูกน้อยลงโดยเฉลี่ยต่ำว่า 2.1 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน ซึ่งเป็นอัตราที่จำเป็นในการรักษาจำนวนประชากรให้คงที่ 

บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเป็นประเทศที่ประชากรเพิ่มขึ้นช้าที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แอดนาน เมวิก ชายวัย 23 ปี ครุ่นคิดเรื่องนี้มาก เขาบอกว่าต่อไปจะไม่มีคนหนุ่มสาวคอยจ่ายเงินบำนาญให้กับคนวัยเกษียณและคนหนุ่มสาวก็จะหายไปหมด 

เมวิก เรียนจบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ เขาบอกว่าถ้าหางานไม่ได้ก็จะย้ายไปสหภาพยุโรป ประเทศเขาเป็นเหมือนหลายภาคส่วนในยุโรปตะวันออกที่เผชิญทั้งปัญหาเรื่องจำนวนประชากรเพิ่มน้อยและจำนวนคนอพยพย้ายออกจากประเทศก็สูง 

ตอนที่แอดนานเกิด โคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ มาร่วมพิธีที่กำหนดให้เขาเป็นเด็กคนที่ 6 พันล้านที่เกิดขึ้นมาในโลก “ขณะที่มีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดสำหรับเด็กคนอื่น ผมมีนักการเมืองหลายคนเดินทางมาเยี่ยม” 

การเป็นเด็กคนที่ 6 พันล้านมาพร้อมสิทธิพิเศษหลายอย่าง รวมถึงการได้เดินทางไปเจอคริสเตียโน โรนัลโด ที่สโมสรเรอัล มาดริด ตอนเขาอายุ 11 ปี 

เขารู้สึกว่ามันน่าตกใจมากที่ในช่วง 23 ปีที่เขาเกิดมา โลกมีประชากรเพิ่มขึ้นถึง 2 พันล้านคน

“นั่นเยอะมากเลยนะ” เขากล่าว “ผมไม่รู้ว่าโลกอันงดงามของเราจะรับมือได้อย่างไร”