Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

เกมชี้ชะตา

Football Sponsored
Football Sponsored

อย่างที่สาวก “เดอะ ค็อป” พอจะรู้อยู่แล้วว่า สาเหตุที่ทำให้ “หงส์แดง” ตกต่ำอยู่ในตอนนี้ก็คืออาการบาดเจ็บที่ตามเล่นงานผู้เล่นของลิเวอร์พูล นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเลยทีเดียว

หากนับแล้วเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ที่เรา ไม่ได้เห็นเจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันจัดขุมกำลังชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เนื่องจากคนหนึ่งเจ็บ พอจะหายกลับมาอีกคนก็เจ็บเพิ่มไปอีกสลับกันแบบนี้ตลอด

จึงไม่น่าแปลกใจที่ฟอร์มของ “หงส์แดง” ออกมาเป็นแบบนี้

ตอนนี้มีนักเตะ “หงส์แดง” เพียงแค่ 8รายเท่านั้น ที่ยังไม่เคยโดนอาการบาดเจ็บรบกวนคือ อาเดรียน, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดก์, แน็ต ฟิลลิปส์, ฟาบินโญ, เจมส์ มิลเนอร์, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์

นอกจากนั้น ที่เหลือได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ตอนนี้ “หงส์แดง” โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานไปถึง 19 คน ในฤดูกาลนี้ โดยถ้าแยกเป็นจำนวนเกมที่พลาด ของแต่ละคนเป็นดังนี้ อลิสสัน เบคเกอร์ (1 เกม), ควีวิน เคลเลเฮอร์ (10 เกม), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์- อาร์โนลด์ (1 เกม), โจแอล มาติป (7 เกม/ยังเจ็บอยู่), อิบราฮิมา โกนาเต (12 เกม/ยังเจ็บอยู่), แอนดี โรเบิร์ตสัน (4 เกม), คอสตาส ซิมิกาส (2 เกม), คาลวิน แรมซีย์ (15 เกม), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (3 เกม), ติอาโก อัลคันทารา (5 เกม), นาบีเกอิตา (13 เกม/ยังเจ็บอยู่)

อาร์ตูร์ เมโล (6 เกม/ยังเจ็บอยู่), เคอร์ติส โจนส์ (11 เกม), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (14 เกม), ฟาบิโอ คาร์วัลโญ (1 เกม), โรแบร์โต ฟีร์มิโน (1 เกม), หลุยส์ ดิอาซ (4 เกม/ยังเจ็บอยู่), ดิโอโก โชตา (8 เกม/ยังเจ็บอยู่) และดาร์วิน นูนเญซ : (1 เกม/ยังเจ็บอยู่)

สำหรับฟาน ไดก์ เป็นนักเตะ “หงส์แดง” ที่ลงเล่นมากที่สุด โดยปราการหลังชาวดัตช์ อยู่ใน สนามเต็มทุกเกม 1,440 นาที ตามมาด้วยโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ 1,323 นาที และฟาบินโญ 1,136 นาที

ถือว่าเป็นงานยากของคลอปป์เลยทีเดียวที่จะจัดการกับขุมกำลังอันจำกัดจำเขี่ยในตอนนี้ ยิ่งหลังจากนี้มีโปรแกรมหนักอีกมากมายยาวไปจนถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนก่อนจะพักเบรกไปลุยฟุตบอลโลก

โดยเฉพาะในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่ยังมีโอกาสสุ่มเสี่ยงอยู่ แม้ว่า“หงส์แดง” จะมี 9 แต้ม อยู่ในตอนนี้ แต่อีก 2 นัด ที่เหลือถือว่างานหนักเลยทีเดียวเมื่อมองจากขุมกำลังที่มีอยู่

นัดต่อไปลิเวอร์พูลมีคิวออกไปเยือนอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ในวันพุธที่ 26 ต.ค.นี้ ซึ่ง “หงส์แดง” ขอแค่เสมอก็เพียงพอต่อการเข้ารอบน็อกเอาต์

ซึ่งไม่ง่ายแน่ที่จะออกไปเยือนที่โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา แม้ว่าอาแจกซ์ ชุดนี้จะไม่แข็งแกร่งเหมือนยุคของ เอริค เทน ฮาก กุนซือดัตช์ที่ย้ายมาคุมแมนฯ ยูไนเต็ด

แต่พวกเขาเป็นทีมที่เล่นในบ้านแข็งแกร่งทีมหนึ่งเลยทีเดียว ถ้า “หงส์แดง” เล่นอย่างไม่รัดกุม ก็มีโอกาสสูงที่จะโดนเกมสวนกลับเล่นงาน

ลองมานึกว่าถ้า “หงส์แดง” พลาดพลั้งเสียที พ่ายแพ้อาแจกซ์มาแล้วนัดสุดท้ายต้องมาดวลกับ “อัซซูรา” นาโปลี จ่าฝูงกัลโช ซีรีเอ ในเกมนัดสุดท้าย เพื่อตัดสินการเข้ารอบ

ไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะออกมาหน้าไหน เพราะตอนนี้ นาโปลี ฟอร์มกำลังจัดจ้านเลยทีเดียว

เพราะถ้าหาก 2 นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูลพ่ายแพ้ ทั้งคู่ก็มีโอกาสสูงที่ “หงส์แดง” จะหล่นมาจอยกับ “ปิศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด และ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในศึกยูโรปา ลีก

เชื่อว่าสาวก “เดอะ ค็อป” ไม่อยากให้เป็น อย่างนั้น ก็ต้องตามลุ้นในวันพุธนี้จะเป็นเกมชี้ชะตา ที่จะบ่งบอกทุกอย่างหลังจากนี้!!!

มะระหวาน

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.