“เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีกส์” อาจเตะสนามกลางเหมือนยุโรป
ประธานเอเอฟซี มั่นใจ ฟุตบอลลีกในเอเชีย จะกลับมาแข่งต่อได้ และอาจปรับรูปแบบเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีกส์ เตะสนามกลางเหมือน ยูฟา แชมเปี้ยนลีกส์
วันที่ 25 มิ.ย.63 ชีค ซัลมาน บิน อิบราฮิม อัล คาห์ลิฟา ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ให้สัมภาษณ์ว่า เอเอฟซี ประสานความร่วมมือกับชาติสมาชิก เพื่อให้ลีกแต่ละประเทศ รวมทั้งฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ ฤดูกาลนี้กลับมาแข่งต่อได้
ฟุตบอลถ้วยสโมสรใบใหญ่สุดของเอเชีย หยุดพักการแข่งขันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังเพิ่งผ่านโปรแกรมรอบแบ่งกลุ่มได้แค่ 2 แมตช์ เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 โดยที่ผ่านมา เอฟเอซี พยายามปรับแผนและโปรแกรมการแข่งขันให้ซีซั่นนี้จบก่อนเดือนธันวาคม เพื่อหาทีมแชมป์สโมสรเอเชีย ไปเล่นฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ ในช่วงปลายปี
ด้าน วินด์เซอร์ จอห์น เลขาธิการเอเอฟซี เผยว่า เอเอฟซี พิจารณาทุกเงื่อนไขที่จะทำให้ แชมเปียนส์ลีก แข่งขันได้ แม้โปรแกรมเพิ่งจะเตะได้แค่ 48 แมตช์ ก่อนได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ตอนนี้ เอเอฟซี กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ทั้งปรับรูปแบบการแข่งขัน หรือเลือกชาติเจ้าภาพจัดโปรแกรมที่เหลือเพียงชาติเดียว คล้ายกับโมเดลของ ยูฟา แชมเปียนลีกส์ ที่จะแข่งก่อนรองชนะเลิศ จนถึงรอบชิง ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
ขณะที่โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย และเอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก ที่ยังค้างอยู่ เอเอฟซี ได้เผยโปรแกรมลงเตะช่วงฟีฟา เดย์ เดือนตุลาคม และพฤศจิกายน ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.