Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

“สมยศ” งัดไทม์ไลน์โชว์อยู่นอกไม่เกี่ยวคดี “บอส” ลั่นใครพูดอะไรไว้ต้องรับผิดชอบ

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:


“บิ๊กอ๊อด” แจงไม่ได้อยู่ในห้องสอบสวนคดี “บอส” เพราะไปประชุมฟีฟา พร้อมโชว์ข้อมูลการเดินทางละเอียดยิบ ลั่นใครพูดอะไรต้องรับผิดชอบ ปัดรู้จัก “ธนสิทธิ์” ยันไม่เกี่ยวคดีนี้ รับทิ้งเวลาแจงเพื่อรอดูใครคือเพื่อนแท้

วันนี้ (20 ส.ค.) เวลา 16.40 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าชี้แจงคณะกรรมการในกรณี พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำพยานเพิ่มเติมมาหักล้างสำนวนคดี ว่า ขอยืนยันว่า ช่วงเวลานั้นระหว่างวันที่ 23-28 ก.พ. 2559 ตนเดินทางไปประชุมฟีฟา ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงไม่ได้อยู่ในห้องสอบสวนคดีตามที่มีการกล่าวอ้าง ส่วนใครพูดอะไรไว้ ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามว่ารู้จักกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่รู้จักใคร และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้

เมื่อถามต่อว่าทำไมถึงมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบ เอาว่าตนไม่ได้อยู่ หรือไม่ได้ทำอะไรที่เป็นไปตามข่าวที่กล่าวอ้าง

เมื่อถามอีกว่า เคยมีปัญหาขัดแย้ง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใครทั้งนั้น ฝากสื่อมวลชนทำให้กระจ่างในข้อเท็จจริง ตนวันนี้รอให้สังคมพิพากษาตน หรือคิดไปเองเดากันไปเอง จนกระทั่งมีวันนี้ ขอบคุณคณะกรรมการชุดนี้ที่เปิดเวทีให้ตนพิสูจน์ตัวเอง มั่นใจว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า การเข้าชี้แจงในวันนี้เคลียร์แล้วใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า มั่นใจ เพราะตนไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ใครที่ทำอะไรไว้ขอให้พึงระมัดระวังและต้องรับผิดชอบด้วย เพราะว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยไม่อาจปกป้องตัวเองบางครั้งเมื่อเป็นข่าวออกไปและถูกสังคมพิพากษา ครอบครัวของตนก็ได้รับผลกระทบตรงนี้ทุกคนมองว่าตนเป็นคนไม่ดี เลวที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงทิ้งเวลาไว้ไม่รีบออกมาชี้แจงตั้งแต่แรก พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เพราะตนอยากรู้จักคนว่าใครคือเพื่อนแท้ที่เข้ามาให้กำลังใจช่วยเหลือ และใครคือคนที่ชั่งรอซ้ำเติมทำร้าย เพราะตนรู้ตัวเองว่าทำอะไรลงไป ส่วนที่ไม่ไปชี้แจงคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพราะมารอชี้แจงกับคณะกรรมการชุดนี้ เพราะคิดว่ามาชี้แจงชุดเดียวก็พอ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ ได้ให้ข้อมูลกำหนดการของตัวเองแก่สื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่า ได้เดินทางไปเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเลือกประธานฟีฟาคนใหม่ระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ. 2559 พร้อมกันนั้น พล.ต.อ.สมยศ ยังมอบข้อมูลดังกล่าวให้แก่นายวิชา อีกด้วย

โดยมีรายละเอียดดังนี้ พล.ต.อ.สมยศ ได้เดินทางออกจากประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 00.35 นาฬิกา วันที่ 24 ก.พ. 2559 เดินทางด้วยสายการบินไทย จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินที่ TG907 และ เวลา 06.55 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงสนามบินซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาแตกต่างจากประเทศไทย 5 ชั่วโมง)

จากนั้นวันที่ 25 ก.พ. 2559 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่โรงแรมแมริออท เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฟีฟา และ AFC ต่อมาวันที่ 26 ก.พ. 2559 การเลือกตั้งประธานฟีฟา (คนใหม่) ที่ ฮัลเลน สตาดิโอน สนามอินดอร์สเตเดียม เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จากนั้นวันที่ 27 ก.พ. 2559 เวลา 13.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ออกเดินทางจากสนามบินซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กลับประเทศไทย โดยสายการบินที่ TG 971 และวันที่ 28 ก.พ. 2559 เวลา 06.10 น. (เวลาประเทศไทย) เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.