- โมฮาเหม็ด มาดี, อาห์หมัด คาลิด และซาเยด อับดุลเลาะห์ นีซา
- บีบีซี นิวส์
ที่มาของภาพ, ฟุตบอล
นักรบตาลีบนนั่งอยู่บนรถในจังหวัดจาลาลาบัด 15 ส.ค. 2021
20 ปีหลังจากถูกโค่นล้มอำนาจ ตาลีบันประกาศตั้งรัฐบาลใหม่แล้วในกรุงคาบูล
คนรุ่นหนึ่งที่เติบโตมาโดยได้รับการศึกษา เห็นการลงทุนจากต่างประเทศ และมีความหวังในอนาคตที่เป็นประชาธิปไตย เมื่อได้เห็นประโยคนี้คงแทบไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
ทำไมรัฐบาลชุดที่แล้วจึงล่มสลายลงอย่างรวดเร็ว?
ตาลีบันใช้เวลาเพียง 10 วันนับตั้งแต่ควบคุมเมืองสำคัญแห่งแรกได้ จนกระทั่งบุกมาประชิดกรุงคาบูล ซึ่งตอนนั้น ผู้สังเกตการณ์คาดว่ากรุงคาบูลจะต้านทานตาลีบันไว้ได้จนกว่าจะเจรจาตกลงกันขึ้น
แต่วันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้หนีออกนอกประเทศ ทหารและตำรวจที่เหลืออยู่ถอดเครื่องแบบแล้วพากันไปหลบซ่อนตัว
รัฐบาลอัฟกันที่ได้รับการหนุนหลังจากชาติตะวันตกและได้รับเงินสนับสนุนด้านการทหารนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐและการฝึกหัดในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา สลายตัวไปในพริบตา
จากการให้สัมภาษณ์ของคนวงในที่อยู่ที่นั่น บีบีซีได้รวบรวมคำบอกเหล่าเกี่ยวกับการพ่ายแพ้ของรัฐบาลในช่วงที่เกิดความระส่ำระสายขึ้นในประเทศ และช่วงเวลา 2-3 ชั่วโมงสุดท้ายแห่งความบ้าคลั่ง
เสาร์ 14 ส.ค. 2021
ที่มาของภาพ, Reuters
นายอัชราฟ กานี และนายบิสมิลเลาะห์ ข่าน โมฮัมมาดี รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม เยี่ยมค่ายทหารในกรุงคาบูล 14 ส.ค. 2021
แหล่งข่าวระดับสูงหลายคนบอกกับบีบีซีว่า บรรดาคนใกล้ชิดกับนายอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน รู้สึกกังวล แต่ไม่ตื่นตระหนก มีการร่างแผนการในการรักษาเมืองหลวงแห่งนี้ไว้ และกำลังมีการหารือกับ พล.อ. อาลีไซ เสนาธิการทหารบก และ พล.ร.อ. เวสลี เจ้าหน้าที่ทางการทหารของสหรัฐฯ ที่มีตำแหน่งสูงสุดในอัฟกานิสถาน ประเด็นสำคัญในการเจรจาคือการหยุดยั้งการบุกของตาลีบันที่อยู่ด้านนอกประตูเมืองของกรุงคาบูล
ซามี ซาดัต อดีตผู้บัญชาการกองทัพบกอัฟกานิสถานในเฮลมานด์ จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ถูกเรียกให้มาบัญชาการชุดรักษาความมั่นคงของกรุงคาบูลชุดใหม่ แผนการคือให้ต่อสู้ถ้ามีความจำเป็น แต่ทางที่ดีคือให้พยายามเจรจาไกล่เกลี่ยอย่างสันติกับตาลีบัน ถ้าไม่สามารถบรรลุผล อย่างน้อย รัฐบาลอัฟกานิสถานก็ต้องถ่วงเวลาเพื่อการอพยพ
แต่ขณะที่ พล.ท. ซาดัตพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะทำงาน ตาลีบันก็ได้ยึด มาซาร์-เอ-ชารีฟ เมืองใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของประเทศไว้ได้ และกำลังบุกเข้าเมืองจาลาลาบัดทางตะวันออก ทั้งสองเมืองต่างตกอยู่ในการควบคุมของตาลีบันโดยแทบไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น
คาบูลคือเมืองสุดท้ายที่ยังไม่ยอมสยบ
นายอัชราฟ กานี อดีตนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund—IMF) ได้เป็นประธานาธิบดีอัฟกานิสถานตั้งแต่เดือน ก.ย. 2014 ผู้ไม่เห็นด้วยภายในรัฐบาลอัฟกานิสถานบอกเราว่า เขาล้มเหลวในการประเมินความเสี่ยงของตาลีบันมาโดยตลอดโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ท้าย ๆ ของการบุก
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ภาพที่เกิดขึ้นในใจของเขาคือชะตากรรมของอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด นาจิบุลเลาะห์ นายกานีได้เอ่ยถึงประวัติศาสตร์ช่วงนี้ตอนที่เขาชี้แจงถึงเหตุผลในการหนีออกจากประเทศ
นายนาจิบุลเลาะห์ถูกจับกุมตัวตอนที่ตาลีบันยึดกรุงคาบูลได้ในปี 1996 นักรบตาลีบันได้ลากเขาออกจากพื้นที่ของสหประชาชาติซึ่งเขาหลบซ่อนตัวและทรมานเขาจนเสียชีวิต จากนั้นก็แขวนศพของเขาไว้ที่เสาสัญญาณไฟจราจรด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดี
เช้าวันอาทิตย์ 15 ส.ค. 2021
ที่มาของภาพ, ฟุตบอล
ชาวอัฟกันต่อแถวด้านนอกธนาคารอาซีซี ในกรุงคาบูล 15 ส.ค. 2021
ในเช้าวันรุ่งขึ้น มีความกังวลเพิ่มขึ้นในบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงคาบูล เพราะมีรายงานหลายแห่งว่า นักรบตาลีบันเข้ามาถึงประตูเมืองแล้ว และเริ่มมีคนต่อแถวยาวตามธนาคารและสนามบิน แต่คนใกล้ชิดประธานาธิบดีกานียังคงเชื่อว่า ตาลีบันจะยังไม่สามารถยึดกรุงคาบูลได้ในตอนนั้น
เจ้าหน้าที่ที่ทำเนียบประธานาธิบดีที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 เดินทางมาทำงานตามปกติ
ความมั่นใจนี้น่าจะมาจากข้อตกลงที่นายซาลัม ราฮีนี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี บรรลุกับตาลีบันในวันก่อนหน้า
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับนายกานีบอกว่า นายราฮีนีได้แอบติดต่อสื่อสารกับทางตาลีบัน และสามารถที่จะบรรลุข้อตกลงกันว่า ทางกลุ่มจะไม่ใช้กำลังยึดกรุงคาบูล เพื่อแลกกับข้อตกลงการครองอำนาจร่วมกันชั่วคราว การทำเช่นนี้จะทำให้การอพยพชาวต่างชาติและผู้ที่ถูกคุกคามที่สนามบินทำได้ต่อไป และยังเป็นการซื้อเวลาสำหรับการเจรจาที่กำลังเกิดขึ้นในกาตาร์เกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลเอกภาพขึ้นด้วย
ที่มาของภาพ, Facebook
นายอัชราฟ กานี ปรากฏตัวในคลิปวิดีโอทางเฟซบุ๊ก 15 ส.ค. 2021
ในการพยายามทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงคาบูลเชื่อมั่น ทีมงานของนายกานีได้โพสต์วิดีโอในวันอาทิตย์ (15 ส.ค.) ทางเพจเฟซบุ๊กทางการของประธานาธิบดี แสดงให้เห็นว่า นายกานีกำลังหารือเกี่ยวกับการปกป้องกรุงคาบูลกับรัฐมนตรีมหาดไทยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงคนอื่น ๆ วิดีโอนี้ยังแสดงให้เห็นว่า เขากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานไม้หรูตัวหนึ่ง และคุยกับรัฐมนตรีทางโทรศัพท์ คลิปนี้ดูเหมือนจะบอกว่า กำลังจะมีการบรรลุข้อตกลงกับทางตาลีบันได้แล้ว และจะทำให้กรุงคาบูลไม่ต้องเผชิญกับการสู้รบ
แต่ดูเหมือนว่า นี่ยังไม่เพียงพอในการทำให้บรรดารัฐมนตรีอาวุโสของเขาเชื่อมั่น แหล่งข่าวหลายคนของบีบีซี กล่าวว่า ประธานาธิบดีกำลังเผชิญกับปัญหาในการติดต่อกับสมาชิกเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ นายอัมรูลเลาะห์ ซาเลห์ รองประธานาธิบดีของเขา ได้หนีไปที่หุบเขาปัญจ์ชีร์แล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงคาบูลราว 30 กม. ขณะที่ไม่สามารถติดต่อนายบิสมิลเลาะห์ ข่าน รัฐมนตรีกลาโหม แผนการเริ่มส่อเค้าว่าจะล้มเหลว
ขณะเดียวกัน กลุ่มนักการเมืองชาวอัฟกันระดับสูงราว 12 คน ได้มุ่งหน้าสู่สนามบินเพื่อเดินทางโดยเที่ยวบินพาณิชย์ไปยังกรุงอิสลามาบัด ของปากีสถาน กลุ่มนักการเมืองนี้รวมถึงนายมีร์ ราห์มัน ราห์มานี โฆษกสภาประชาชน และนายคาริม คาลีลี อดีตรองประธานาธิบดี
นายชาขิบ ชาริฟี สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่ม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทางการของกระทรวงเกษตร ปฏิเสธรายงานสื่อหลายแห่งในภายหลังที่ระบุว่า การเดินของพวกเขาเป็นการอพยพ
“เป้าหมายของเราคือการโน้มน้าวให้รัฐบาลปากีสถานช่วยไกล่เกลี่ยและหลีกเลี่ยงการนองเลือดในอัฟกานิสถาน” เขากล่าว
แต่ประธานาธิบดีกานีไม่ต้องการให้พวกเขาเดินทางไป “เขาเกรงว่า เราจะไปเจรจา ขอความช่วยเหลือจากปากีสถานที่จะทำให้เขาต้องหมดอำนาจ เขาไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับการเดินทางของเรา” นายชาริฟีกล่าว
ผู้สังเกตการณ์หลายคนระบุว่า ประธานาธิบดีอาจจะกังวลใจว่า จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกขึ้นในประเทศได้ ถ้าอนุญาตให้โฆษกรัฐสภาเดินทางออกนอกประเทศ
นายชาริฟีบรรยายถึงภาพความตื่นตระหนกเป็นวงกว้างที่เกิดขึ้นภายในเมือง ขณะที่เขาและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ กำลังเดินทางไปยังสนามบิน
ที่มาของภาพ, ฟุตบอล
รถติดจนไม่สามารถขยับได้ ในช่วงที่ตาลีบันเริ่มบุกมาถึงชานกรุงคาบูล 15 ส.ค. 2021
“เราได้ยินมาว่า ตาลีบันอยู่ที่ประตูเมืองแล้ว แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะบุกเข้ามาในเมืองอย่างรวดเร็ว คืนก่อนหน้า เรากังวลกันมาก เรานอนโดยมีอาวุธอยู่ข้างตัว”
“มีการต่อแถวยาวด้านนอกธนาคารต่าง ๆ ขณะที่ผู้คนรีบพากันไปถอนเงินดอลลาร์ มีการต่อแถวยาวที่สนามบิน ขณะที่ผู้คนพยายามที่จะเดินทางเข้ามา และมีรถรามหาศาล”
การจราจรแย่มากจนกระทั่งอดีตรองประธานาธิบดีคาลีลี ซึ่งไม่ได้เดินทางร่วมกับคนอื่น ๆ ต้องลงจากรถและเดินไปสนามบินในช่วง 15 นาทีสุดท้าย เพื่อไปให้ทันเวลา
เมื่อถึงสนามบิน ทางกลุ่มก็ได้รับรายงานสถานการณ์ล่าสุดตามปกติเกี่ยวกับการบุกของตาลีบัน
“แต่ละนาทีเราได้รับรายงานว่า ตาลีบันยึดสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในเมืองไว้ได้แล้ว มันน่ากลัวมาก”
ภายในสนามบิน เกิดความวุ่นวายขึ้นไปทั่ว
ผู้คนจำนวนมากในสนามบูลกรุงคาบูล 15 ส.ค. 2021
ผู้สื่อข่าวบีบีซีคนหนึ่งพบเห็นผู้คนแย่งกันซื้อตั๋วเที่ยวบินพาณิชย์ที่เหลืออยู่เที่ยวท้าย ๆ บางคนที่ได้ตั๋วมาแล้ว ก็ถูกปรับชื่อออก เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักร้อง และแขกคนสำคัญอื่น ๆ ได้เดินทางแทนพวกเขา
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่พรมแดนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินก็เริ่มหายไป ปล่อยให้จุดต่าง ๆ ไม่มีคนประจำการ และผู้โดยสารก็ผ่านเข้าไปโดยไม่มีการคัดกรองใด ๆ ผู้คนเริ่มบุกเข้าไปที่จุดจอดเครื่องบิน
สุดท้าย ทางกลุ่มก็สามารถเดินทางขึ้นเครื่องบินของสายการบินปากีสถานอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ส แต่ฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศสั่งไม่ให้เครื่องบินลำดังกล่าวทะยานขึ้น และให้รอคำสั่งต่อไป
“เราคิดว่า สมาชิกกลุ่มติดอาวุธตาลีบันอาจจะยึดสนามบินได้ทุกนาที” นายชาริฟีกล่าว “เราคิดถึงหนทางต่าง ๆ ในการป้องกันตัวเองโดยใช้สิ่งที่มีอยู่ ถ้าพวกเขาขึ้นมาบนเครื่องบิน สิ่งเดียวที่ผมอาจใช้ได้ที่หนักมากพอก็คือแบตเตอรีของแล็ปท็อป”
บ่ายวันอาทิตย์ 15 ส.ค. 2021
กลับไปที่ทำเนียบประธานาธิบดี สถานการณ์เริ่มย่ำแย่ลงเช่นกัน นายกานียังคงพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ทางการระดับสูงในกระทรวงกลาโหมและมหาดไทย แต่แทบติดต่อใครไม่ได้เลย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลอาวุโสกล่าวกับบีบีซีว่า “ดูเหมือนว่า กลไกของรัฐบาลจะพังทลายลงแล้ว และประชาชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้แบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ไม่มีกลุ่มไหนรู้ข่าวของกันและกันเลย”
“เรากำลังคาดว่า จะได้รับคำแนะนำอะไรบางอย่างจากทำเนียบประธานาธิบดี แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
กลุ่มบุคคลใกล้ชิดนายกานีเองก็เริ่มมีขนาดเล็กลงและแยกตัวออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ แหล่งข่าวหลายคนบอกกับบีบีซีว่า คนที่ทำการตัดสินใจในเรื่องสำคัญร่วมกับนายกานีอีกไม่กี่คนคือ นายฮัมดุลเลาะห์ โมฮิบ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และนายฟาเซล ฟาซลี เสนาธิการทหารของเขา
นายโมฮิบ วัย 38 ปี เป็นอดีตทูตอัฟกานิสถานประจำสหรัฐฯ ซึ่งได้รับการศึกษาในชาติตะวันตก อาจจะเป็นคนใกล้ชิดที่นายกานีไว้วางใจมากที่สุด ทั้งที่เขาไม่มีภูมิหลังด้านความมั่นคงและการทหารเลย แต่นายกานีก็แต่งตั้งให้เขาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในปี 2018 ให้เขารับผิดชอบการตัดสินใจด้านการทหารที่สำคัญต่าง ๆ
แหล่งข่าวหลายคนในทำเนียบประธานาธิบดีบอกเราว่า ในช่วงบ่าย นายโมฮิบเริ่มบังคับให้มีการอพยพ หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดที่ด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดี คนที่อยู่ที่นั่นระบุว่า นายกานีเองยังลังเลที่จะหนีออกไป นายโมฮิบบอกประธานาธิบดีว่า ชีวิตของเขากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง
“โมฮิบบอกกานีว่า ตาลีบันกำลังเดินทางมา และพวกเขาจะจับตัวเขาและสังหารเขา เขากังวลใจมาก” หนึ่งในคนวงในทำเนียบประธานาธิบดีกล่าว
ขณะเดียวกัน ความรู้สึกถึงความไม่แน่นอนได้เริ่มเกิดขึ้นไปทั่วกรุงคาบูล
ที่มาของภาพ, ฟุตบอล
นักรบตาลีบันในจังหวัดลากห์มัน ใกล้กับกรุงคาบูล 15 ส.ค. 2021
ชาวเมืองคนหนึ่งบอกกับบีบีซีว่า “เราอยู่ที่สำนักงาน [และ] ตอนประมาณ 14.00 น. ในโซเชียลมีเดียก็เต็มไปด้วยภาพของนักรบตาลีบันภายในเมือง เพื่อนร่วมงานพากันเริ่มเก็บของแล้วออกจากที่ทำงาน เราไม่พูดคุยกันเลย ตอนที่ผม (ฉัน) ออกจากสำนักงาน ท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คน ร้านค้าปิด ผม (ฉัน) ได้ยินเสียงปืน ผม (ฉัน) หวาดระแวงทุกคนไปหมด”
แหล่งข่าวหลายคนบอกว่า เจ้าหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยของประธานาธิบดี ไม่เห็นด้วยกับแผนการให้ประธานาธิบดีเดินทางออกจากที่นั่น ตอนที่เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำเดินทางมาถึงที่ทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อพาตัวประธานาธิบดีกานี ภริยา และเจ้าหน้าที่ใกล้ชิด เดินทางออกไป มีการผลักกันและตะโกนใส่กันระหว่างผู้ที่กำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์และเจ้าหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยที่ยังอยู่ที่นั่น”
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หลายคนรายงานว่า มีการโยนกระเป๋าหลายใบลงบนพื้น ขณะที่คนกำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ รายงานบางแห่งระบุว่า กระเป๋าเหล่านี้บรรจุเงินสดที่ใช้ในการจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัย แต่คำบอกเล่าเหล่านี้ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องได้ นายกานีเองได้ส่งข้อความจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเวลาต่อมา ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า เขาเดินทางออกจากประเทศพร้อมกับเงินมหาศาล
เวลาประมาณ 15.30 น. ประธานาธิบดีกานี และเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดเขา รวมถึงนายโมฮิบและนายฟาซลี ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางออกจากทำเนียบประธานาธิบดี
พวกเขาเดินทางไปที่เมืองเทอร์เมียซ ประเทศอุซเบกิสถาน จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา มีภาพหลายภาพปรากฏไปทั่วโลก เป็นภาพของผู้ชนะซึ่งชัดเจนว่า เป็นนักรบตาลีบันที่ถ่ายที่โต๊ะทำงานในทำเนียบประธานาธิบดี โต๊ะเดียวกับที่นายกานีนั่งอยู่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น
หนังสือที่อยู่บนโต๊ะนั้นในช่วงการประชุมเช้าของนายกานี ยังคงวางอยู่ที่เดิม และถูกคั่นไว้อยู่หน้าเดิม ดูเหมือนว่าไม่มีใครแตะต้อง แต่ตอนนี้ตาลีบันกำลังเริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่แล้ว
กลับไปที่สนามบิน สมาชิกระดับสูงของรัฐบาลหลายคนกำลังรอคอย ขณะที่ข่าวการหลบหนีออกจากประเทศของนายกานีก็ยังไม่มีการยืนยัน
“ผมนับได้ว่า มีเจ้าหน้าที่ทางการระดับสูงหลายสิบคน รวมถึงรัฐมนตรี นั่งรอติดอยู่กับทางขึ้นลงเครื่องบิน” เจ้าหน้าที่รัฐบาลอาวุโสกล่าว “ทุกคนต่างถามกันว่าประธานาธิบดีกานีอยู่ไหน แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครรู้ว่า เขาอยู่ที่ไหน”
ส่วนเครื่องบินเที่ยวบิน PK6250 ของสายการบินปากีสถานแอร์ไลน์ส ที่บรรทุกนายชาริฟีและกลุ่มของเขายังคงติดค้างอยู่ที่สนามบิน เป็นเวลา 4 ชั่วโมงครึ่งแล้วนับตั้งแต่ผู้โดยสารขึ้นเครื่องในตอนแรก ฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศพลเรือนยังคงเงียบเฉย
นักบินต้องเป็นผู้ตัดสินใจ
อีกฝั่งของสนามบิน ในฝั่งของกองทัพ เฮลิคอปเตอร์ชีนุกและเครื่องบินทหารของสหรัฐฯ หลายลำ กำลังเดินทางออกไปอย่างต่อเนื่อง
จากนั้น นักบินมักซูด บาจรานี จึงได้ตัดสินใจนำเครื่องทะยานขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต การตัดสินใจนี้ทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษในปากีสถานในเวลาต่อมา เขากล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เขาแค่บินตามเครื่องบินทหาร 2 ลำบนทางขึ้นลงเครื่องบิน
นายชาริฟีได้เล่าถึงความรู้สึกโล่งใจของกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอัฟกานิสถาน
“เราดีใจมากที่สุดท้ายเครื่องก็ได้ทะยานพาเราขึ้นไป แต่ขณะเดียวกัน เราก็เศร้า เพราะเราไม่รู้แน่ชัดว่า เมื่อไหร่เราจะเดินทางกลับมาได้”
ตอนนั้นพวกเขาไม่รู้ว่า ประธานาธิบดีได้ออกนอกประเทศแล้ว
2-3 วันต่อมา ประธานาธิบดีกานี ได้ปรากฏตัวทางเฟซบุ๊กไลฟ์จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเขาได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ที่นั่น “ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม”
เขารู้สึกเจ็บปวดจากการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขาหนีออกนอกประเทศในช่วงเวลาสำคัญ เขาพยายามที่จะแก้ข้อกล่าวหานี้
“นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของผมในการเดินทางออกจากกรุงคาบูล มันเป็นการตัดสินใจของหน่วยรักษาความปลอดภัยใกล้ชิดของผม ถ้าผมยังอยู่ต่อ อาจจะมีการนองเลือดเกิดขึ้น” เขากล่าว
“และสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีก่อนในอัฟกานิสถานก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมคงจะถูกแขวนคอต่อหน้าประชาชนอัฟกานิสถาน และนี่จะกลายเป็นหายนะอันน่าสะพรึงกลัวในประวัติศาสตร์ของเรา”
แม้ว่าการที่ตาลีบันยึดกรุงคาบูลได้อย่างรวดเร็วในช่วงบ่ายวันที่ 15 ส.ค. อาจทำให้คนบางส่วนประหลาดใจ แต่ก็มีเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้เกิดขึ้นในส่วนอื่นของประเทศ
บีบีซี นิวส์ ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเจรจากันในพื้นที่ นำไปสู่การยอมแพ้ต่อตาลีบันของจังหวัดทางใต้แห่งหนึ่ง
แหล่งข่าวตาลีบันคนหนึ่งในจังหวัดซาบูล ซึ่งมีพรมแดนติดกับปากีสถาน กล่าวว่า การถอนกำลังของสหรัฐฯ ออกไปจากจังหวัดนี้ในปี 2014 ไม่ได้เหลือการสนับสนุนด้านวัตถุใด ๆ ไว้ให้แก่กองทัพอัฟกานิสถานเลย
“เมื่อกองกำลังอเมริกันเข้ามาในซาบูล พวกเขาประจำการตามด่านตรวจและฐานทัพต่าง ๆ แต่เมื่อพวกเขาจากไป กองทัพอัฟกันไม่สามารถส่งคนไปประจำการและส่งเสบียงได้ ตาลีบันตัดเส้นทางการขนส่งเสบียงต่าง ๆ และทำให้พวกเขาไม่สามารถทำหน้าที่ได้” สมาชิกของคณะเจรจาของตาลีบันคนหนึ่งในเขตชินไคในจังหวัดซาบูล กล่าวกับ บีบีซี
นักรบตาลีบัน ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในชนบทอยู่แล้ว ค่อย ๆ ยึดด่านตรวจต่าง ๆ บีบให้กองกำลังของอัฟกานิสถานถอยกลับเข้าค่าย ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2021 เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายตาลีบันเป็นฝ่ายได้เปรียบในสถานการณ์ที่ซาบูล
“ตามประเพณีท้องถิ่นของเรา เราตัดสินใจที่จะเจรจากับเจียก์กา (ที่ประชุมชนเผ่า)” สมาชิกที่เข้าร่วมคณะเจรจาของตาลีบันในเขตชินไค จังหวัดซาบูล กล่าวกับบีบีซี
การเจรจาเกิดขึ้นในช่วงเวลา 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. และมีตัวแทนจากแต่ละฝ่ายเข้าร่วมหลายสิบคน นำโดยมูกลิส ผู้บัญชาการตาลีบันในพื้นที่ และอินอะยาตุลเลาะห์ โฮทัก รองผู้ว่าการจังหวัดซาบูล โดยมีการเจรจากัน 2 เรื่อง ได้แก่ การรับประกันความปลอดภัยของกองทัพอัฟกานิสถาน และการแบ่งอาวุธกันระหว่างตาลีบันและคนในพื้นที่
มีการบรรลุข้อตลกงในวันต่อมา โดยผู้อาวุโสเห็นด้วยกับการมอบกองกำลังของกองทัพอัฟกานิสถานและอาวุธให้แก่ตาลีบัน ซึ่งรับประกันความปลอดภัยในการเดินทางไปยังเมืองเคอลาต เมืองเอกของจังหวัด ทหารยังได้รับเงินคนละ 5,000 อัฟกานิ (ประมาณ 1,800 บาท) และอาวุธเบาคนละชิ้นเพื่อใช้ป้องกันตัว และพาหนะในการอพยพออกจากเมือง โดยมีทหารของกองทัพอัฟกานิสถานรวมหลายร้อยนายเดินทางออกจากเมืองชินไคในวันที่ 16 มิ.ย. เพื่อไปยังเมืองเคอลาต โดยมีตาลีบันคอยจับตามองอยู่
แหล่งข่าวคนหนี่งบอกว่า ค่ายทหารในพื้นที่อีกหลายแห่งในจังหวัดซาบูลได้บรรลุข้อตกลงคล้ายคลึงกันเพื่อรับประกันความปลอดภัยในการเดินทาง
หลายวันต่อมา กรุงคาบูล ก็ถูกตาลีบันยึดครองเช่นเดียวกัน
สำหรับชาวอัฟกานิสถานจำนวนมาก วันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. ถือเป็นจุดเปลี่ยนจากชีวิตที่มีความหวังกลายเป็นชีวิตที่สิ้นหวัง
ชาวเมืองคนหนึ่งบอกเราว่า เมื่อฟ้ามืดลง สิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
“ตอนนี้ด้านนอกมืดมิดและเงียบสงัดมาก มันเป็นค่ำคืนที่น่าเศร้าที่สุด คาบูลกำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ”