Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

ไม่ต้องกักตัว! ‘หงส์’ ปล่อย ‘ซาลาห์’ ร่วมทัพมัมมี่เยือนกาบอง – SMMSPORT

Football Sponsored
Football Sponsored

ลิเวอร์พูล อนุญาตให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไปรับใช้ทีมชาติอียิปต์ เกมบุกเยือนกาบอง ในศึกคัดบอลโลก โซนแอฟริกา เพราะไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางกลับมายังประเทศอังกฤษ

ลิเวอร์พูล สโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อนุญาตให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวเก่ง เดินทางไปร่วมทัพทีมชาติอียิปต์ ทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา รอบ 2 กลุ่ม เอฟ นัดที่จะบุกเยือน กาบอง ในวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายนนี้ เนื่องจาก ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดง 

ก่อนหน้านี้ ทัพ “หงส์แดง” ปฏิเสธที่จะปล่อยให้ ดาวเตะวัย 29 ปี กลับไปรับใช้ชาติที่ประเทศบ้านเกิด ในเกมที่ชนะ แองโกลา 1-0 เมื่อวันพุธที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เพราะ อียิปต์ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเรดลิสต์ของทางสหราชอาณาจักร ซึ่งผู้ที่เดินทางกลับมาจะต้องกักตัว 10 วัน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ตาม กาบอง ไม่ได้อยู่ในลิสต์ดังกล่าว ทำให้ ซาลาห์ สามารถเดินทางไปสมทบกับทีมชาติที่ประเทศกาบองได้ และเมื่อเดินทางกลับแดนผู้ดีก็สามารถลงฝึกซ้อมกับทางสโมสรได้เลย โดยที่ไม่ต้องกักตัว ทำให้ไม่ต้องพลาดลงช่วยทีมในกมที่จะบุกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่สนาม เอลแลนด์ โร้ด ในวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายนนี้

ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในหลายสโมสรพรีเมียร์ลีก ที่ไม่ต้องการปล่อยตัวนักเตะไปรับใช้ชาติในพื้นที่สีแดง โดยนอกจาก ซาลาห์ แล้ว อลีสซง เบ็คเกอร์, ฟาบินโญ่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็ไม่ได้ไปช่วยทีมชาติบราซิล ทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ในเดือนนี้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเหมือนกัน

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน กล่าวว่า ใน 10 วัน หากถาม แพทย์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ก็จะทราบว่า นักเตะจะสูญเสียกล้ามเนื้อโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากนั้นเมื่อกลับมาทำการฝึกซ้อม ถือเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างมาก หากพวกเขาต้องเล่น 3, 4, 5 วัน หลังจาก 10 วันในการกักกัน อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้

  • แฟนหงส์อยากเห็นคล็อปป์เซ็นแข้ง60ลป.เจ้าของฉายาซลาตัน2
  • แข้งทีมชาติฝรั่งเศสเผยผิดหวังสุดๆ หลังไม่ได้ย้ายมาลิเวอร์พูล
  • ‘คาร์ราเกอร์’ ผิดหวัง ‘หงส์’ ไม่ซื้อแนวรุกหวั่นแข้งเจ็บทำชวดแชมป์
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.