Football Sponsored
Categories: ฟีฟา

ไฟเขียว “Novavax” อียูอนุมัติแผนซื้อ “วัคซีนโควิด” ล่วงหน้า 200 ล้านโดส – คมชัดลึก

Football Sponsored
Football Sponsored

คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 อนุมัติข้อตกลงที่อนุญาตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จัดซื้อ “วัคซีนโควิด” ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ของ โนวาแวกซ์ “Novavax” บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสหรัฐฯ สูงสุด 200 ล้านโดส หากองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) รับรองว่าวัคซีนดังกล่าวปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

แถลงการณ์จากคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะสามารถจัดซื้อวัคซีนของโนวาแวกซ์ 100 ล้านโดส และมีตัวเลือกการจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 100 ล้านโดส ในช่วงปี 2021 2022 และ 2023 ผ่านข้อตกลงกับ โนวาแวกซ์ โดยประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ยกย่องข้อตกลงดังกล่าวว่า มีบทบาทช่วยเสริมความแข็งแกร่งแก่ “ตัวเลือกวัคซีนอันหลากหลาย” ของอียู

นอกเหนือจาก “วัคซีนโควิด” Novavax สหภาพยุโรปยังลงนามสัญญากับ แอสตร้าเซนเนก้า “AstraZeneca” ซาโนฟี – จีเอสเค “Sanofi – GSK” แจนเซน ฟาร์มาซูติกา เอ็นวี “Janssen Pharmaceutica NV” ไบออนเทค – ไฟเซอร์ “BioNtech – Pfizer” เคียวแวค “CureVac” และ โมเดอร์นา “Moderna” รวมถึงเสร็จสิ้นการเจรจาหารือกับ วาลเนวา “Valneva” เท่ากับว่ามีการทำสัญญาสำรองซื้อวัคซีนถึง 4.4 พันล้านโดสแล้ว

อย่างไรก็ดี กลุ่มประเทศตะวันตกอันมั่งคั่งถูกกล่าวหาว่า กักตุนวัคซีนมากกว่าที่พลเมืองต้องการ โดยก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ประเมินว่า สหรัฐฯ จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าความจำเป็น 3 เท่า ขณะหลายประเทศกำลังพัฒนายังคงดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งวัคซีนเพียงโดสเดียว

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องกลุ่มประเทศร่ำรวยระงับแผนการแจกจ่ายวัคซีนโดสกระตุ้น โดยอ้างถึงความไม่เท่าเทียมของการเข้าถึง “วัคซีนโควิด” ทั่วโลก โดยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส แถลงข่าวว่า เราจำเป็นต้องเปลี่ยนการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวนมากจากประเทศรายได้สูงไปยังประเทศรายได้ต่ำส่วนใหญ่อย่างเร่งด่วน

(แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรการแพทย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนในกรุงเอเธนส์ของกรีซ วันที่ 2 เม.ย. 2021)

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.