ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ทักทายประชาชนที่มารับบริการ พร้อมขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ว่า เราไม่ทิ้งกัน ขอให้ทุกคนปลอดภัย วัคซีนเมื่อได้มาต้องกระจายกันไป วันนี้รัฐมนตรีรวมถึงแพทย์มาหลายคน ทั้งหมดนี้คือรวมใจไทยสร้างชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างตรวจเยี่ยมได้มีเจ้าหน้าที่การบินไทยที่มาช่วยให้บริการประชาชน สอบถามนายกฯ ถึงการเดินหน้าเปิดประเทศ นายกฯกล่าวว่า เรื่องการเปิดประเทศก็เดินหน้าไป ถ้าปิดหมดจะทำอย่างไร เพื่อให้ทุกอย่างฟื้นจะเริ่มแล้ว การบินต่างๆเตรียมไว้แล้ว ส่วนการเพิ่มเตียงอยากให้เพิ่ม 100 เตียง เตียงพร้อมหมอต้องพร้อมประเทศไทยเราต้องช่วยกัน ทุกอย่างต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย ใครป่วยใครเจ็บรัฐบาลรับผิดชอบหมด ขอให้ช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ ทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีน มากน้อยตามสถานการณ์ เชื่อว่าเดี๋ยวเราจะสามารถควบคุมได้ รัฐบาลวางเป้าว่าจะฉีดให้ได้ 50 กว่าล้านคน มันไม่ง่ายหรอก พยายามเจรจาหาวัคซีนเพิ่ม ถ้ามาเยอะๆฉีดวัคซีนไม่ทันกันก็น่าดู ขอให้เชื่อมั่น วันนี้ต้องเอาชนะให้ได้ หลายคนเสนอให้ล็อกดาวน์จะเอาหรือไม่ วันนี้มีหลายคลัสเตอร์ทำ อย่างไรจะให้ปลอดภัย ต้องควบคุมให้ได้ การปิดประเทศทำเศรษฐกิจแย่ ทำมาหากินลำบาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้มารับวัคซีน ประชาชนได้ให้กำลังใจว่า นายกฯสู้ๆ นายกฯได้ตอบว่า สู้อยู่แล้ว พร้อมกล่าวว่าวันนี้การส่งออกประเทศเพิ่มขึ้นแม้จะอยู่ในช่วงโควิด แสดงว่าเราบริหารงานได้ดีอยู่ จะมารังเกียจรังงอนใครไม่ได้ ทุกคนเป็นคนไทย โรงงานวันนี้เราก็ปิดไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า เป็นที่น่ายินดีการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวาง ควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทาน สิ่งเหล่านี้ รัฐบาลทำมาต่อเนื่องในการประสาน วันนี้มีที่เดียวคือสถาบันจุฬาภรณ์เท่านั้น แต่ถ้าวันหน้ามีอีกก็ยินดี แต่ต้องผ่านหลักเกณฑ์กติกา เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทาน วันนี้ได้รับมา 1 ล้านโดส พระราชทานให้หน่วยงานละ 6,400 โดส ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กทม. รพ.จุฬาภรณ์ เน้นกลุ่มผู้ด้อยโอกาส คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย ผู้อาศัยในชุมชนพื้นที่เสี่ยง ผู้ต้องขังกรมราชทัณฑ์ก่อน การจัดหาวัคซีนยังเป็นไปตามแผน พยายามจะเจรจาเพิ่มเติม วันนี้พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ สถาบันทุกพระองค์ ทรงทำตรงนี้กันอยู่
นายกฯกล่าวว่า สำคัญที่สุดผู้ลงทะเบียนหมอ พร้อมต้องได้รับการฉีดเราต้องเคลียร์ตรงนี้ให้ได้ก่อน วันนี้แอปพลิเคชันมาจากหลายที่ขอให้เสนอเข้ามาก่อน ยังไม่ต้องนัด เพราะหากนัดก่อนวัคซีนมาจะมีปัญหา การแพร่ระบาดที่ยอดสูงขึ้นทุกวัน ต้องหารือกับกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. ว่า มาตรการที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร การตรวจเชิงรุกยอดต้องพบยอดเพิ่มขึ้นดีกว่าไม่ตรวจ แล้วก็รักษาได้ควบคุมได้ เรื่องเตียงผู้ป่วยสีแดงได้สั่งจัดหาเพิ่มเติมให้ได้โดยเร็วที่สุด 100 เตียง คุยกันเรียบร้อยแล้วกับ กทม. และ รมว.สาธารณสุข น่าจะเรียบร้อยภายในไม่กี่วัน พยายามทำอย่างดีที่สุด ชีวิตต้องเดินหน้าครอบครัวต้องหากินต้องมีเงินใช้ วันนี้แก้ด้วยวิธีการพบระบาดตรงไหนปิดตรงนั้น สำคัญต้องร่วมมือ ปิดก็คือปิด ต้องอยู่ในพื้นที่ไม่ให้แพร่ไปที่อื่น จะพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ส่วนแรงงานต่างด้าวได้กวดขันทุกช่องทาง แต่ยังมีคนพยายามลักลอบเข้ามา ได้กำชับไปที่กระทรวงแรงงานให้ไปตรวจโรง งานที่มีแรงงานผิดกฎหมาย ไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกลงโทษ
นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ยึดหลักแก้ปัญหาให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปให้ได้ แม้ว่าจะมีโควิดในเวลานี้ ยังมีหลายประเทศอยากจะมาเยี่ยมเยือนเมืองไทย เราต้องมีมาตรการที่รัดกุม เช่น ที่ภูเก็ต ตนจะไปเปิดงานในวันที่ 1 ก.ค.ไม่ใช่หยุดทั้งหมด ถ้าทำได้ก็ทำได้ ถ้าทำไม่ได้เราต้องหยุดก็แค่นั้น เราใช้แนวคิดเเซนด์บ็อกซ์ การท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศถึง 40 เปอร์เซ็นต์ วันนี้เป็น 0 ไม่มีรายได้ รายได้การจัดเก็บภาษีลดลงไปรีดกับใครไม่ได้ ต้องเร่งเปิดตรงนี้ หลายประเทศเขาบอกว่าไม่กังวลไทย แม้สถิติเราจะตกใจแต่เขาไม่ตกใจ เขามากกว่าเราเยอะ แต่เราต้องทำให้เขาปลอดภัยกลับไป ประมาทไม่ได้เราต้องดูแล
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องเปิดประเทศที่พูดกันมาหลายวัน ต้องขอบคุณบรรดาคณะแพทย์ที่มีความห่วงใย แต่ก็ขอความกรุณาฟังทางนี้ ทั้งศบค. และสาธารณสุข เป็นผู้ปฏิบัติงานจริง มีข้อมูลหากสงสัยขอให้ถามกันมา ถ้าจะไปพูดกันไปกันมามันก็จะไปคนละทางสองทาง ตนคิดว่าเราไม่อยากเดินหน้าไปสู่ความวุ่นวายที่จะทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ความอดอยากปากแห้งของคนไทย นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องทำไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ไม่ใช่นายกฯทำตรงนี้แล้วไม่สนใจเรื่องสุขภาพมันใช่ที่ไหน เราทำอย่างนี้มาเรื่อยๆอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เอาชัดๆเลยว่ายังไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์ กทม.ใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่ยืนยันว่าจะทำหรือไม่ทำ ต้องฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข คณะแพทย์ ถึงเหตุผลความจำเป็นและจะนำไปพิจารณาในที่ประชุม ศบค. รวมถึงต้องไปถามประชาชนข้างล่างด้วยว่า หากต้องปิดเขาจะเดือดร้อนอย่างไร เพราะเดี๋ยวรัฐบาลต้องหาเงินไปดูแลอีก เมื่อถามย้ำว่า หลายคนเสนอให้เจ็บแล้วจบ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า แล้วแน่ใจไหมว่าปิดแล้วจบ รับรองได้ไหม ถ้านักข่าวบอกให้ปิดแล้วไม่จบทำยังไง ถ้าเจ็บแล้วจบก็ควรทำ แต่ถ้าเจ็บแล้วไม่จบจะทำอย่างไร ต้องทำให้ดีที่สุดไม่โทษใคร ทุกคนต้องมีจิตสำนึก ระมัดระวังและอย่าไปเสี่ยงกัน
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในไทยว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,644 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 3,451 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,803 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 648 ราย จากเรือนจำ 162 ราย มาจากต่างประเทศ 31 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 236,291 ราย หายป่วยเพิ่ม 1,751 ราย อยู่ระหว่างรักษา 41,366 ราย อาการหนัก 1,603 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 460 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 44 ราย เป็นชาย 26 หญิง 18 ราย อยู่ใน กทม. 20 ราย สมุทรปราการ 12 ราย ยะลา สระบุรี จังหวัดละ 2 ราย กาญจนบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี สมุทรสาคร สุพรรณบุรี ปัตตานี นครสวรรค์ ชลบุรี จังหวัดละ 1 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,819 ราย ฉีดวัคซีนรวม 8,657,423 โดส
พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า 5 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 25 มิ.ย. ได้แก่ กทม. 1,142 ราย สมุทรสาคร 295 ราย ยะลา 215 ราย ปทุมธานี 192 ราย สมุทรปราการ 186 ราย ทั่วประเทศพบคลัสเตอร์ใหม่ในหลายจังหวัด ดังนี้ จ.ปทุมธานี 2 แห่ง ที่โรงงานขนม อ.ลาดหลุมแก้ว มีติดเชื้อ 56 ราย บริษัทผลิตลวดโลหะ อ.เมือง 7 ราย จ.สมุทรปราการ ที่บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อ.บางพลี 129 ราย จ.นนทบุรี บริษัทผลิตพลาสติก อ.บางกรวย 9 ราย จ.นครปฐม ที่โรงฆ่าสัตว์ ต.ท่าข้าม อ.สามพราน 5 ราย จ.ฉะเชิงเทรา ที่บริษัทผลิตสี อ.บางปะกง 12 ราย กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่ 8 แห่ง มีที่เขตคลองสามวา 2 แห่ง คือ แคมป์คนงาน ถนนพระยาสุเรนทร์ และแคมป์ก่อสร้างย่านคู้บอน แคมป์ก่อสร้าง ย่านพัฒนาการ 32 เขตสวนหลวง บริษัทจำหน่ายพลาสติกบรรจุภัณฑ์ภาชนะ เขตบางแค ที่เขตบางขุนเทียน 3 แห่ง คือ บริษัทผลิตภัณฑ์แก๊สปิโตรเลียม บริษัทขนมขบเคี้ยว บริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง บริษัทผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป เขตบางบอน ทำให้ กทม.มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 107 แห่ง
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กเป็นห่วงเรื่องเตียงในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ต้องเพิ่มศักยภาพขยายเตียงให้ดูแลผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงได้ โดยมีแผนขยายเตียงผู้ป่วย โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน สีเหลืองจะเพิ่ม 70 เตียง สีแดงเพิ่ม 16 เตียง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สีเหลืองเพิ่ม 100 เตียง สีแดงเพิ่ม 40 เตียง โรงพยาบาลธนบุรี (มณฑลทหารบกที่ 11) สีเหลืองเพิ่ม 200 เตียง สีแดงเพิ่ม 55 เตียง คาดภายใน 1 สัปดาห์จะปรับพื้นที่และระดมบุคลากรเข้าบริการได้ ที่ประชุมยังหารือเรื่องแคมป์คนงาน โรงงาน ตลาด ชุมชนใน กทม.ที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากพบคลัสเตอร์ที่มีการแพร่ระบาดมากกว่า 28 วัน รวม 25 แห่ง คลัสเตอร์ที่มีการแพร่ระบาด 14-27 วัน 13 แห่ง กระจายอยู่ใน 6 เขต การที่ กทม.ไม่สามารถจบคลัสเตอร์ได้ภายใน 28 วันหลังจากบับเบิลแอนด์ซีลบางจุดแล้ว แตกต่างจากกรณี จ.สมุทรสาคร ที่ยุติได้ภายใน 28 วัน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องความร่วมมือ ที่ยังมีการเล็ดลอด จากแคมป์คนงานไปในตลาด ชุมชน หรือพอปิดแคมป์หนึ่งก็มีการเคลื่อนย้ายไปอีกแคมป์หนึ่ง
พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมพร้อมรับทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ทั้งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ จะมีทหารเกณฑ์ผลัดใหม่ทั้งประเทศ ประมาณ 6 หมื่นนาย รายงานตัวที่ที่ว่าการอำเภอ จะมีการคัดกรองอย่างเคร่งครัด ทั้งระหว่างพักคอย ระหว่างเดินทาง จะมีการจัดผังที่นั่งบนรถไฟ รถยนต์ ไม่มีแวะระหว่างทาง หรือแวะเท่าที่จำเป็น เมื่อถึงค่ายจะปรับตัวและอบรมให้ความรู้เป็นเวลา 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผู้ที่ติดเชื้อเข้าไปปะปน คนที่ยังมารายงานตัวไม่ได้เพราะติดเชื้อ หรือถูกกักตัวอยู่ ให้นำเอกสารมายืนยันจะไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อสิ้นสุดการกักตัวแล้วให้มารายงานตัวได้ สำหรับปลายทางที่จะนำพาทหารไป ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ช่วยย้ำมาตรการเข้มงวดในจังหวัดระหว่างวันที่ 1- 3 ก.ค. ฝากถึงผู้ปกครองปีนี้ขอเว้นการไปส่งลูกหลาน เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างเรียบร้อย ปลอดภัย ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนให้กับครูฝึกและทหารเกณฑ์ที่จะเข้าประจำการใหม่จะได้รับการฉีดวัคซีนในเร็ววันนี้
เวลา 14.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. เรียกประชุมที่ปรึกษา ศบค. และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หารือถึงข้อเสนอมาตรการล็อกดาวน์ กทม. และติดตามแก้ปัญหาการจัดหา กระจายฉีดวัคซีน โดยมีคณะที่ปรึกษา ตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ สมช. ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธานที่ปรึกษา ศบค. ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า วันนี้ทั้งคุณหมอ นายกฯ รัฐบาลโดนกันเรียบ แต่ไม่เป็นไรคิดว่าหลายอย่างแก้ปัญหาได้ด้วยความร่วมมือระหว่างกัน วันนี้มีหลายอย่างยังต้องแก้ไขต้องเพิ่มเติม ถ้าร่วมมือกันทำทั้งหมดได้ก็ดี แต่ยังต้องสั่งให้คนรับผิดชอบทำให้ได้ ทั้งคลัสเตอร์และจังหวัดที่มีการแพร่ระบาด โดยเฉพาะแรงงานที่เป็นแหล่งสำคัญ หลายคนบอกว่าทำไมจีนแก้ปัญหาได้ ต้องถามว่าเขามีวินัยไหม ห้ามคนของเขา ได้ไหม แต่ของไทยห้ามคนของเราได้แค่ไหนก็รู้กันดี
ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.แถลงหลังใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมงพิจารณาข้อเสนอล็อกดาวน์ เชิญคณะแพทย์ที่ปรึกษายืนร่วมแถลงข่าวด้วย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ถือเป็น การประชุมที่ได้ประโยชน์มากที่สุดในการแก้ไขปัญหาที่ทุกคนและรัฐบาลมีความเป็นห่วงสถิติการระบาดสูงขึ้นทุกวัน เพราะเราตรวจสอบเชิงรุก เรื่องแรกขอยืนยันว่าช่วง 2 เดือนคือ ก.ค.-ส.ค.จะฉีดวัคซีนให้กับเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคตามเป้าให้ครบทั้งหมดทุกคนจะได้สบายใจ โดยจากผู้เสียชีวิตขณะนี้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องลดการสูญเสียให้ได้ อีกส่วนจะทยอยดำเนินการ
นายกฯกล่าวว่า เรื่องที่ 2 สถานการณ์ระบาดผู้ที่เกี่ยวข้องห่วงใย โดยเฉพาะในแคมป์คนงานต่างๆ จึงมีข้อตกลงใจ จากข้อมูลหลายฝ่ายที่เสนอเข้ามาต้องปิดแคมป์เหล่านี้ เพื่อระงับการแพร่ระบาด กระทรวงแรงงานเข้าไปดูแลค่าใช้จ่ายในระหว่างที่ปิดแคมป์เป็นเวลา 1 เดือน เบื้องต้นทุกคนต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นแรงงานคนไทยหรือต่างด้าว อีกส่วนหนึ่งคือโครงการของรัฐในเรื่องของการจ้างงาน ได้สั่งการว่าให้หยุดชั่วคราวไปก่อน 1 เดือน จะมีการยืดระยะเวลาให้ภายหลัง
“ในส่วนของ กทม.และปริมณฑลทั้งหมด รวมทั้ง 4 จังหวัดภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาสและสงขลา ที่กำลังระบาด ได้นำตัวเลขทั้งหมดมาประเมินใช้หลักการสาธารณสุข รวมทั้งการปฏิบัติของฝ่ายบริหาร วันนี้ต้องเข้มงวด ต้องไปดูว่ากิจการใดทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดโรค ไม่ใช้คำว่า ปิดทั้งหมดแต่มีมาตรการเฉพาะออกมาชั่วคราว แล้วมาประเมินว่าถูกต้องตามเป้าหมายหรือเปล่า คำว่าล็อกดาวน์มันยิ่งใหญ่ เราขอใช้คำว่าเป็นกิจการ เป็นพื้นที่ เป็นคลัสเตอร์ ที่เราต้องดูแลเป็นพิเศษ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือมาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายไปมาของคนที่เหมาะสม การห้ามคนทั้งหมดเป็นเรื่องยาก ขณะเดียวกันทุกจังหวัดมีมาตรการของตัวเองอยู่แล้ว กรณีเคลื่อนย้ายจากพื้นที่ที่ระบาดก็ต้องควบคุม แต่สิ่งสำคัญคือไม่อยากให้มีการเคลื่อนย้ายต้องขอร้องกันในช่วงนี้
นายกฯกล่าวว่าเรื่องคนไข้หนักได้สั่งการกระทรวง สาธารณสุขและ กทม.จัดหาเตียงเพิ่มมากขึ้น ต้องหาสถานที่ที่เหมาะสมเชื่อมโยงกับโรงพยาบาล สิ่งสำคัญเรื่องการขาดบุคลากรทางการแพทย์ วันนี้ได้มีการหารือเพื่อปรับและโยกมาที่กรุงเทพฯ แพทยสภาและราชวิทยาลัยฯ มีแพทย์ปีสุดท้ายที่กำลังจะจบใหม่เข้ามาช่วย เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รัฐบาลยินดีสนับสนุนหากขาดแคลนให้เสนอเข้ามา
“สรุปแล้วรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเลยสักเรื่อง ผมให้เกียรติกับคณะหมอ สาธารณสุข แม้จะมีความจำเป็นด้านเศรษฐกิจอยู่ แต่วันนี้สาธารณสุขต้องมีบทบาทนำ ขณะเดียวกันเราต้องทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าด้วยความปลอดภัยถ้าเน้นข้างใดข้างหนึ่งอาจจะลำบากได้ เราต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งหมดที่พิจารณาวันนี้จะออกเป็นมาตรการภายในสัปดาห์นี้ วันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.เริ่มปฏิบัติขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งในเรื่องการเดินทางไปมาน้อยลง โดยเฉพาะสถานที่ที่มีการสุ่มเสี่ยง” นายกฯกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงขั้นประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ นายกฯตอบว่า ยังไม่มี สิ่งสำคัญสุดเราต้องไล่ฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ในส่วนของโรงงานยังคงประกอบการได้ แต่ต้องบับเบิลแอนด์ซีล ทั้ง กทม.ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ การเดินทางยังไม่ได้จำกัดเพียงแต่ขอร้องกันอย่าเพิ่งไปไหน คนตกงานกระทรวงแรงงานดูแลในจุดที่ปิด ร้านอาหารเขาก็ดูแลกันอยู่แล้วจ่ายเงินบ้างช่วยจ่ายครึ่งหนึ่งบ้าง มาตรการที่ออกวันนี้ทางหมอและสาธารณสุขเขาพอใจ ขอทดลองดำเนินการสักเดือนหนึ่งก่อน น้อยเกินไปบางทีอาจจะยังไม่ชัดเจน แล้วประเมินว่า หลังจากทำตรงนี้ดีขึ้นหรือไม่ แต่อย่างน้อยคิดว่าจะหยุดได้บ้าง ไม่เชื่อนายกฯก็เชื่อหมอแล้วกัน เมื่อถามว่า จะมีโอกาสฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า อย่าเพิ่งฉีดเข็มที่ 3 เลย ฉีดเข็มที่ 1-2 ให้ครบก่อน คิดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า ระลอกแรกกรุงเทพฯมีไอซียูโควิดที่ใช้งานจริงได้ 200 เตียงระลอกสอง 300 เตียง ระลอกสามจนถึงขณะนี้ 500 เตียง ในอีก 10 วันข้างหน้า อัตราเสียชีวิตผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจคือ 50% จะมีผู้เสียชีวิต 150 คน อีก 150 คนที่เหลือจะย้ายออกจากไอซียูได้ หากมีผู้ป่วยใหม่วันละ 1,000 คน รวม 10 วัน 10,000 คน ผู้ป่วยโควิดใหม่ทุก 100 คน โรคจะลุกลามจนต้องใช้ไอซียูโควิด 5 คน จะต้องเตรียม 500 เตียง ดังนั้นเตียงที่ยังขาดอยู่จะได้จากไหน เราจะยอมให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปอีกนานเท่าไร
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ระบุด้วยว่า เราจะรักษาโรคโควิด-19 ในเมืองหลวงแบบไหน หลังถูกปล่อยให้เรื้อรังซึมลึกมาหลายเดือน ล็อกดาวน์ กทม.ชั่วคราว เพื่อค้นหาและหยุดยั้งการระบาด โดยยุทธการ 3 ระ คือ “ระงับ” การเคลื่อนย้ายของประชาชนทั้งคนไทยภูมิลำเนา กทม. คนไทยต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานใน กทม. แรงงานต่างชาติทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย “ระดม” กำลังทั้งภาคการแพทย์ ภาคประชาชน ภาคความมั่นคง จากต่างจังหวัดที่สถานการณ์โควิดยังพอควบคุมได้ เพื่อเสริมทัพใน กทม. เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อ คัดแยกผู้ป่วยที่มีอาการเข้ารักษาตามระดับความรุนแรง เฝ้าระวังและติดตามผู้ที่เสี่ยงแต่ยังไม่ติดเชื้อจนกว่าจะปลอดภัย “ระวัง” จัดเตรียมมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ เราอาจไม่มีคนที่แข็งแรงพอที่จะชื่นชมผลงานการเปิดประเทศสร้างรายได้ ซื้ออาวุธเพื่อปกป้องประเทศ หรือสร้างสิ่งประดับสวยงามในท้องถิ่นแบบผลาญเงินและไม่เกิดมูลค่าเพิ่ม และต้องทำมาตรการเช่นเดียวกันนี้ในทุกจังหวัดที่มีปัญหาเช่นเดียวกับ กทม.
ที่ รพ.ราชวิถี นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผอ.รพ.ราชวิถี ไปตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการผู้ป่วยฉุกเฉิน นายสาธิตกล่าวว่า รพ.ราชวิถีดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยฉุกเฉิน ทำให้ บุคลากรมีความอ่อนล้า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้เริ่มเห็นภาพผู้ป่วยโควิดตกค้างรอเตียงอยู่ที่บ้านมากขึ้น ตกค้างในระบบประมาณ 600 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียวที่ยังรอเตียงได้แต่ให้อยู่ที่บ้าน ใกล้เคียงกับที่เคยเกิดเมื่อเดือน เม.ย. ยังมีตกค้างนอกระบบที่ยังไม่ได้รับแจ้งอีก อาจเห็นการเสียชีวิตที่บ้าน ดังนั้นต้องเร่งลดจำนวนผู้ป่วยโควิด- 19
นายสาธิตกล่าวต่อว่า 4.เปิดเตียงไอซียูสนามเพิ่มเติม ทั้ง รพ.เอกชนและโรงเรียนแพทย์ คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รพ.รามาธิบดี วชิรพยาบาล ประมาณ 50 เตียง ภายใน 7 วัน คาดว่าทั้ง 4 มาตรการทำพร้อมๆกัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ จะช่วยให้ผู้ป่วยเริ่มลดลง และจะเสนอมาตรการใหม่ คือ การกักตัวที่บ้านให้ผู้ป่วยโควิดสีเขียวรักษาที่บ้าน กระทรวงวางระบบการติดตามอาการในแต่ละวันใช้ระบบเทคโนโลยีติดตามตัวว่าอยู่ภายในบ้าน ได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีบ้างแล้ว ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.กทม.ตัดสินใจ
ขณะที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมจัดหาสำรอง และกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นำเข้ามาสำรองในคลังเพิ่มอีก 3,000,024 เม็ด เมื่อรวมกับยาที่มีสำรองอยู่รวมเป็น 5,435,319 เม็ด ทำให้มียาใช้รักษาเพียงพอต่อเนื่อง ปัจจุบันมีอัตราการใช้ยาอยู่ประมาณ 70,000-80,000 เม็ดต่อวัน ได้จัดสรรไปสำรองและกระจายอยู่ในสถานพยาบาลต่างๆ
ที่ จ.ยะลา สถานการณ์โควิดหนักมาก นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ. ในฐานะผู้กำกับการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ประชุมคณะกรรมการ ศบค.ยะลา หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากต่อเนื่อง โดยวันที่ 25 มิ.ย. พบผู้ติดเชื้อ 215 ราย และยังมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น พบการติดเชื้อมากที่สุดที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาตะห์ฟิสบ้านแบหอ ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง 51 ราย มัรกัสตาเซะ 48 คน บ้านเปาะยานิ (มัรกัสยะลา) ฝั่งผู้หญิง 38 คน ผู้ป่วยคลินิกทางเดินหายใจ 22 คน มัรกัสเบตง 10 คน อาลาเกาะห์ 2 ราย ปอเนาะพงยาวี 2 ราย และคลัสเตอร์อื่นๆ ร่วมกิจกรรมงานต่างๆ 44 ราย
สำหรับการระบาดคลัสเตอร์เปาะยานิ มัรกัสยะลา จากข้อมูลของ สคร.เขตสุขภาพที่ 12 ตั้งแต่วันที่ 9-24 มิ.ย. ผู้ติดเชื้อมี 450 ราย แยกเป็นผู้ป่วยโรงเรียนตะห์ฟีซุลกุรอาน มัรกัสยะลา 232 ราย กลุ่มกิจกรรมทางศาสนา 53 ราย ชุมชนมัรกัส 21 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 140 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 4 ราย สาเหตุติดเชื้อเกิดจากปัจจัยเสี่ยง กิจกรรมทางศาสนา การกินอาหารร่วมกัน โรงเรียนประจำ หอพักอยู่หลายคน กิจกรรมส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ที่ประชุมได้มีมติเตรียมออกคำสั่งเพิ่มโรงพยาบาลสนาม ยกระดับ LQ อำเภอ/ตำบล ประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีมีผู้ติดเชื้อในสถานที่ต่างๆ เช่น ตลาด ร้านค้า สถานที่ประกอบการ ศาสนสถาน โรงเรียน โรงงานและอื่นๆอีก
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เผยว่า จากสถานการณ์ที่น่ากังวล เทศบาลฯร่วมกับภาคเอกชน ประชาสังคม ร่วมจัดตั้งกองทุนวัคซีนป้องกันโควิด- 19 เพื่อชาวยะลา เพื่อซื้อวัคซีนและวัสดุทางการแพทย์ เสริมหน่วยงานภาครัฐต่อไป เชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วเท่าไหร่จะช่วยเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชนชาวยะลาเร็วขึ้นตามนั้น
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีพนักงานและนักศึกษาฝึกงาน บริษัท ชัยยุทธการประดิษฐ์ (1988) ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ต่อมานายธงชัย วิเศษบุปผา สาธารณสุขอำเภอบางพลี เปิดเผยข้อมูลยืนยันว่า มีพนักงานในโรงงานแห่งนี้ติดโควิดจริง จำนวน 129 ราย เป็นคนไทย 66 ราย แรงงานต่างชาติ 63 ราย โดยใน 129รายเป็นนักศึกษาฝึกงาน 40 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอไปยังจังหวัดว่า จะต้องปิดสถานประกอบการหรือไม่อย่างใด ส่วนผู้ติดเชื้อได้ส่งตัวเข้ารักษาตาม รพ.ตามสิทธิแล้ว รวมถึงผู้สัมผัสใกล้ชิดได้ส่งกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ ขณะนี้ติดขัดเรื่องเตียงการรักษาและสถานที่กักตัวไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันยังต้องจับตาเฝ้าระวังคลัสเตอร์โรงงานอีก 3 แห่ง ที่ต้องเฝ้าระวังสูงในพื้นที่อำเภอบางพลี และในวันที่ 25 มิ.ย. พบผู้ป่วยใหม่ อีก 186 ราย
ที่ จ.นนทบุรี พบผู้ป่วยใหม่อีก 184 รายเป็นหญิง 92 ราย ชาย 92 ราย อยู่ใน อ.เมือง 47 รายอ.บางบัวทอง 47 ราย อ.ปากเกร็ด 35 ราย อ.บางกรวย 26 ราย อ.ไทรน้อย 15 ราย อ.บางใหญ่ 14 ราย
ที่เรือนจำกลางชลบุรี อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ต้องขังที่เข้ารับการฉีดวัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม ที่ได้มีการคัดเลือกเรือนจำกลางชลบุรี ที่อยู่ในพื้นที่สีแดงและเป็นเรือนจำที่มีผู้ต้องขังจำนวนมากรับการฉีดเป็นเรือนจำแรก
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นจะปิดแคมป์คนงานใน กทม.ปริมณฑลและ 4 จังหวัดภาคใต้ เป็นเวลา 1 เดือน ได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อลงไปในพื้นที่พบผู้ประกอบการ ชี้แจงมาตรการขอความร่วมมืองดเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดในเวลานี้ โดยช่วงปิดแคมป์จะมีมาตรการเยียวยาให้ 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง เนื่องจากถูกปิดตามคำสั่ง ศบค. ส่วนวิธีการจ่ายเงินจะหารือกับผู้ประกอบการต่อไป โดยมีระบบตรวจสอบว่าแรงงานที่จะได้รับการเยียวยาต้องอยู่ในแคมป์จริงๆที่โครงการใดที่มีสัญญากับรัฐหรือเอกชน จะมีการขยายระยะเวลาสัญญาให้
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเรื่องที่รัฐบาล และ ศบค. มีมติเพิ่มมาตรการควบคุมโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม และควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ลงไปขับเคลื่อนกำชับ บช.ภ 1-9, บช.น., สตม., ตชด. และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ให้พิจารณาจัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจร่วม จัดชุดสายตรวจร่วมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดดังกล่าว พร้อมปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุข พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ. ควบคุมโรคฯ และประกาศคำสั่งของจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงกวดขันจับกุมการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง
ขณะเดียวกัน 5 สมาคมภาคค้าปลีกและบริการ ประกอบด้วย คณะกรรมการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย สมาพันธ์ SME ไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมศูนย์การค้าไทย สมาคมภัตตาคารไทย ออกแถลงการณ์ด้วยความตระหนักถึงสถานการณ์โควิดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เสนอแนวคิดและข้อเสนอแนะว่า การล็อกดาวน์เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีแผนปฏิบัติการเชิงรุกร่วมด้วยและต้องมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ เช่น ช่วยค่าน้ำค่าไฟ เป็นเวลา 3 เดือน, ช่วยจ่ายค่าแรงงานที่ต้องว่างงาน ชดเชยรายได้ที่หายไป เป็นต้น หากมีความจำเป็นต้องล็อกดาวน์กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขอนำเสนอแนวทางการล็อกดาวน์เป็น 3 ระดับ ดังนี้ ล็อกดาวน์เป็นช่วงเวลา ล็อกดาวน์เป็นบางคลัสเตอร์ หรือบางจุดในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก และเร่งฉีดวัคซีนในคลัสเตอร์ให้ครบ 100% ล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล งดการเคลื่อนย้ายข้ามพื้นที่ ปูพรมการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องล็อคดาวน์ถึง 14 วัน
This website uses cookies.