Football Sponsored

ก้าวเดียว! แรชฟอร์ด จ่อทุบ 1 สถิติ ‘เซอร์บ็อบ’ หลังยิง โซเซียดาด

Football Sponsored
Football Sponsored

1 ประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด จากเกมที่ทีมบุกเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด ด้วยสกอร์ 4-0 เมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา ทำให้เจ้าตัวต้องยิงอีก 1 ประตูในบอลยุโรป จะทำสถิติทาบตำนานของสโมสรอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ในทันที

ควันหลงหลังจากเกม ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย เลกแรก ที่สนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม คู่ระหว่าง เรอัล โซเซียดาด เปิดบ้านถูก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่ถล่มยับเยิน 4-0 เมื่อคืนวานนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2564)

ในเกมดังกล่าว ดาวยิงของทีม “ปีศาจแดง” อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำได้ 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ โดยที่ 1 ประตูนี้ ทำให้ แรชฟอร์ด ยิงในบอลยุโรปซีซั่นนี้ไปแล้ว 7 ประตู โดยที่ 6 ประตู มาจากศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ เจ้าตัวใกล้จะทำลายสถิติแข้งอังกฤษที่ทำประตูได้มากสุดในฟุตบอลยุโรปของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานเบอร์ 1 ของสโมสรที่เคยยิงในบอลยุโรปไว้ 8 ประตู เมื่อ ซีซั่น 1964/65 

นับตั้งแต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงเล่นเกมแรกให้ “ปีศาจแดง” ในปี 2015 เจ้าตัวลงสนามไปแล้วทั้งสิ้น 251 เกม ทำประตูไปแล้ว 89 ลูก กับอีก 51 แอสซิสต์ ซึ่งถ้าหากนับเฉพาะซีซั่นนี้ เจ้าตัวยิงไปแล้ว 17 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ 

โดยที่ “ปีศาจแดง” เพิ่งจะไล่ยิงใส่ เรอัล โซเซียดาด มา 4-0 โดยที่นัดที่ 2 ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย จะกลับไปเล่นกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รังเหย้าของทีม “ปีศาจแดง” ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วนโปรแกรมนัดต่อไปในของ “ปีศาจแดง” จะเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.