นี่แหละฟุตบอล!สิ่งที่อยากบอกหลังเกม2เศรษฐีแมนซิตี้บุกแซงดับปารีส

    หลังดูเกมเศรษฐีระหว่าง ‘กาต้าร์’ กับ ‘อาบูดาบี’ จบลงแล้วก็อยากจะบอกว่า…

    1. ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเศษๆ ยังมองไม่เห็นและนึกไม่ออกเลยนะครับว่า เปแอสเช จะแพ้แบบคาบ้านได้อย่างไร

    เพราะนอกจากจะนำ 1-0 แล้ว พวกเขายังเล่นดีกว่าด้วย

    เฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งแรกที่เวลาบุกสามารถสร้างความกดดันให้ แมนฯ ซิตี้ มากกว่า แถมมีโอกาสทำประตูมากกว่าอีกต่างหาก

    2. แมนฯ ซิตี้ ครองบอลมากกว่าก็จริง แต่เจ้าถิ่นเล่นเกมรับกันได้ไม่เลว ซ้ำยังแก้เพรสเก่ง นอกจากทำชิ่งกันแม่นยำ ยังสวิตช์บอลยาวข้ามไปยังที่ว่างได้ดีอีกด้วย 

    ขณะที่ทีมเรือใบได้แต่ถ่ายบอลไปถ่ายบอลมาช้าๆ แทบหาจังหวะเข้าไปทำประตูไม่ได้ ก่อนอาการจะกระเตื้องขึ้นในครึ่งหลัง กระนั้นก็ไม่ได้ถือว่าบุกกระหน่ำอะไรมากมาย

    3. กระทั่ง เควิน เดอบรอยน์ เปิดบอลแฉลบพื้นเข้าประตูไปนั่นแหละ

    ลูกแบบนี้ ผู้รักษาประตูเกลียดยิ่งกว่าตุ๊กแก คือเปิดโค้งไปทางเสาไกลแล้วจะมีตัวโฉบเข้ามา ซึ่งบอลมันจะตกไปยังจุดเกรงใจจนทำให้เสียจังหวะ

    แมนฯ ซิตี้ ตีเสมอได้แบบถูกหวยนะครับ ก่อนมันจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกนรกเป็นสวรรค์เลยทีเดียว

    4. พอเสียประตูแบบไม่น่าเสีย หรือเสียแบบ ‘เชี่ยไรเนี่ย?’ สังเกตได้เลยว่าผู้เล่นปารีสฯ เหมือนจะเสียอารมณ์จนเสียขบวน แล้วเครื่องสะดุดเพลาหักไปเลย

    จากที่ครึ่งแรกทำเกมรุกคุกคามอยู่ดีๆ เกมของพวกเขาชักจะติดๆ ขัดๆ เหมือนคนถูกกางเกงในเข้าตูด แถม เนย์มาร์ เจอาร์ กับ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ก็ถูกเอเลี่ยนลักพาตัวไปในครึ่งหลัง

    ว่าแล้วก็ทำฟาวล์แบบทะเล่อทะล่า เสียฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษตัวเองโดยใช่เหตุ

    ย้ำว่าโดยใช่เหตุจริงๆ 

    ก่อนวินาทีสังหาร เควิน เดอบรอยน์ กับ ริยาด มาห์เรซ ยืนตกลงกันอยู่ที่ลูกฟุตบอล ก่อนที่ เดอบรอยน์ จะพูดอะไรบางอย่าง ประมาณว่า…

    ‘กูขอ’ 

    ดาวเตะแอลจีเรียจึงทำท่าว่ายอมก็ได้ แล้วถอยออกมา

    ทันใดตัวเองก็สปีดเข้าไปสับเปรี้ยงเดียว ลูกพุ่งทะลุกำแพงมนุษย์เข้าไปตุงตาข่ายซะอย่างนั้น

    ที่เหี้ยคือกำแพงมันมีรูอยู่แค่นิดเดียว แล้วลูกมันยังอุตส่าห์มุดเข้าไปในรูนั้นพอดี (กรุณาดูภาพประกอบ) 

    5. จากนำ 1-0 กลายเป็นตามหลัง 1-2 แบบเจ้าของทีมอยากขึ้นไปกระทืบเทพีแห่งโชคบนท้องฟ้าให้ม้ามแตกคาตีน

    แต่เรื่องยังไม่จบง่ายๆ เพราะ กาน่า เกย์ ดันไปย่ำคู่แข่งจนถูกใบแดงไล่ออกไปอีกคน ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้เล่นปารีสฯ คุมสติกันไม่ค่อยอยู่แล้ว 

    ลำพัง 11 ตัวเท่ากันก็ลำบาก นี่เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าก็แทบจะจบ

    แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่เน้นการครองบอลเข้าทำด้วยทีมเวิร์ค แต่ดันมาได้ 2 ประตูช่วยให้เป็นผู้ชนะจากลูกแบบนี้

    นี่แหละ…ฟุตบอล

    ทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไปครึ่งตัวแล้วนะครับ เพราะเกมต่อไปที่ อิสต์แลนด์ – เปแอสเช ต้องบุกชนะให้ได้ 2 ประตูขึ้นไปเท่านั้น

    บางที เมาริซิโอ เปเช็ตติโน่ ลองปรึกษา โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ดูนะครับว่าบุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 มันต้องทำยังไง ???

    บอ.บู๋