Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“กัน” ธนวัฒน์ อนาคตเป๋าตุง

Football Sponsored
Football Sponsored

ชั่วโมงนี้หากเอ่ยชื่อของ “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร นักเตะสายเลือดไทยแท้ๆ มีคุณพ่อ คุณแม่ เป็นคนไทย นักเตะของทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขึ้นมาแฟนลูกหนังต้องรู้จักนักเตะจากเมืองคนเหน่อ จ.สุพรรณบุรี จาก อู่ทอง คนนี้แน่นอน

    ในฐานะของนักเตะเยาวชนที่มีชื่อสำรอง เกมพรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 2 นัด คือเกมพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ห )และไปเยือน เวสต์แฮม แม้จะยังไม่ได้รับโอกาสจาก ผจก.ทีมอย่างเ บรนแดน ร็อดเจอร์ส ส่งลงสนามจาก 2 เกมดังกล่าวก็ตาม  

    “กัน” ปัจจุบัน วัย 21 ปีนั้นไปอยู่ฝรั่งเศส กับคุณแม่ไก่ ที่มีสามีใหม่เป็นชาวฝรั่งเศสตั้งแต่อาย 6 ปีจนได้รับสัญชาติ ฝรั่งเศส และพูดได้ทั้ง ฝรั่งเศส,อังกฤษ ,เยอรมัน  และเคยติด ทีมชาติ “ตราไก่” ชุดยู 16,17 และเคยเป็นกัปตันอีกด้วย 

    นอกจากนี้ยังเคยเล่นกับ NANCY ชุด ยู 19 มาแล้ว ก่อนจะเข้าตา ทีม เลสเตอร์ ที่มีเจ้าของทีมเป็นคนไทย อย่าง “บิ๊กต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เจ้าของ คิงส์พาวเวอร์ ที่เป็นเจ้าของทีม โอเอช ลูเวิน ในจูบิแลร์ลีก เบลเยี่ยม อีกทีม ดึงเข้ามาสู่ทีม “จิ้งจอกสยาม” เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา 

    สดๆร้อนๆ “กัน” ที่มี รุ่นพี่อย่าง “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธิ์ เป็นไอดอล มีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่มี อากิระ นิชิโนะ นำทัพ รอลุยภารกิจคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนเอเชีย 

    จากที่ทีมงานฟุตบอลสยามได้พยายามไปสืบเสาะหาข้อมูลเรื่องของรายได้ของ “กัน” ทั้งจาก คอลัมนิสต์ชื่อดัง สยามสปอร์ต ที่ประจำการ อยู่อังกฤษ อย่าง “ลิตเติ้ลโจ” สุรศักดิ์ มากทวี , “ชู้ตเอาต์” พีรายุ ชื่นกุล แห่ง กองบก.สตาร์ซอกเกอร์  

    ทำให้ทราบมาว่า ปัจจุบัน “กัน” ยังได้รับค่าเหนื่อยจากต้นสังกัด เลสเตอร์ไม่มาก เพราะยังได้ค่าเหนื่อยจากการเป็นนักเตะทีมชุด ยู 23 อยู่ ซึ่งไม่มาก เต็มที่น่าจะไม่เกิน 1 พันปอนด์ หรือ 40,000 บาทต่อเดือน เท่านั้น

    แต่อนาคตหากมีชื่อติดทีมชุดใหญ่ ได้แบบถาวร แน่นอนว่า “กัน” จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกมหาศาลแน่นอน

    งานนี้ขึ้นอยู่กับตัว “กัน” คนเดียว ดั่งคำที่ว่า “ระยะทาง พิสูจน์ม้า กาลเวลา พิสูจน์คน” นั่นเอง

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.