ฝ่ายจัด “เฟรนช์ ซูเปอร์ คัพ” พบ “เสี่ยวินิจ” รอจัดแมตช์ระดับโลก 5 ส.ค.นี้ ที่ราชมังฯ
โยอันน์ โกแด็ง และแอนน์ บองดู ตัวแทนจากสันนิบาตฟุตบอลอาชีพฝรั่งเศส ( The LIGUE DE FOOTBALL PROFESSIONNEL ) หรือ LFP เดินทางเข้าพบ วินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา
โดย ตัวแทนจากสันนิบาตฟุตบอลอาชีพฝรั่งเศส เดินทางมาเยี่ยมชมสนามราชมังคลากีฬาสถาน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับศึกฟาดแข้งระดับโลก รายการ TROPHEE DES CHAMPIONS 2023 IN BANGKOK หรือเฟรนช์ ซูเปอร์ คัพ ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้
ศึกเฟรนช์ ซูเปอร์ คัพ 2023 ที่จะจัดขึ้น ณ ราชมังคลากีฬาสถาน จะเป็นการพบกันระหว่างแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส กับแชมป์ฟุตบอลถ้วยของฝรั่งเศส โดยคนไทยคาดหวังให้ “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คว้าแชมป์ลีกเอิงให้ได้ เพราะอยากจะดูซูเปอร์สตาร์อย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป รวมไปถึง เนย์มาร์ และลิโอเนล เมสซี แต่รายหลังต้องลุ้นหนักเพราะเจ้าตัวจะหมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.