Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

ไม่ได้สอนใคร ! บิ๊กฮั่นแจงชัดรู้วิธีการทำเชียงรายฯคว้าแชมป์

Football Sponsored
Football Sponsored

“บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช แจงชัด ไม่ได้สอนใคร แต่เรารู้วิธีการทำให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นแชมป์ เผยตอนดวลจุดโทษ คิดอยู่อย่างเดียว ทำให้ได้อย่างซ้อม

    จากความสำเร็จในซีซั่นที่ยาวนานจากวิกฤตไวรัส โควิด-19 ของทีม “กว่างโซ้ง” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอคัพ 2020-21 หลังจากเอาชนะจุดโทษ ชลบุรี เอฟซี สกอร์รวม 5-4 โดยเสมอในเวลา 120 นาที 1-1 เป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยสมัยที่ 3 ของ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วย 

    ล่าสุด “บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานบริหาร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด  เปิดเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “ทุกคนในทีมทำงานหนักมาโดยตลอด และทุกคนได้รับผลตอบแทนที่ดีมากๆกับการเป็นแชมป์ในครั้งนี้”

    “จริงในรายละเอียดเกมหรือวิธีการที่ผมพูดตรงนั้นมันอาจจะไม่ได้เป็นการที่เราจะบอกว่าสอนนะครับ แต่เรารู้วิธีการเป็นแชมป์ ดังนั้นเราจะพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราต้องซ้อมให้ละเอียดในทุกๆมิติ ในทุกๆรายละเอียด ทุกๆสิ่งมันอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เราเตรียมแผนเอาไว้เป็นอย่างดี”

    ประธานบริหาร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด  ยังเผยอีกว่า “ตอนนี้เรายังไม่ได้เตรียมแผนในฤดูกาลหน้าแต่อย่างใด เพราะมันเป็นฤดูกาลที่ยาวนาน ทีมอื่นๆเขาจบไปกันหมดแล้ว แต่เราต้องมาพูดคุยถึงการปรับเปลี่ยนทีม อาจจะมีผู้เล่นใหม่เข้าออกอย่างไร คงจะกลับไปคิดหลังจากวันนี้”

    ผู้สื่อข่าวสอบถาม “บิ๊กฮั่น” ถึงจังหวะจุดโทษ คิดถึงเรื่องอะไร ซึ่ง “บิ๊กฮั่น” เผยว่า “ผมคิดอยู่อย่างเดียวว่า ขอให้ทำได้อย่างที่ซ้อม เพราะว่าเราเรียงลำดับนักฟุตบอลที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในการซ้อมจุดโทษนะครับ เราเรียงลำดับมาอย่างนี้อยู่แล้วในตอนซ้อม”

    สำหรับการยิงจุดโทษที่ สิงห์ เชียงรายยูไนเต็ด  ยิง 5 คน ในการเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 4-3 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 1-1 ประกอบด้วย คนแรก อัครวินทร์ สวัสดี ยิงเข้า , คนที่สอง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ยิงเข้า , คนที่สาม วสันต์ ฮมแสน ยิงเข้า , คนที่สี่ ชินภัทร ลีเอาะ ยิงไม่เข้า และ คนที่ห้า โชติภัทร์ พุ่มแก้ว ยิงเข้า ซึ่ง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด  จะได้เข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 แบบอัตโนมัตืในฐานะแชมป์ฟุตบอลถ้วยด้วย

“บิ๊กฮั่น”มิตติ​ ติ​ยะ​ไพรัช​ บอกแชมป์ไม่ได้เป็นการสอนชลบุรี​แต่อย่างใด​ กว่าจะมาถึงจุดนี้เป็นฤดูกาล​ที่ยาวนาน

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.