Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

แข้งจิ๋ว'ใจฟ้า'ควง'บางกะปิ' ซิวแชมป์เยาวชน 'สิงห์ จูเนียร์ คัพ' ครั้งที่ 24

Football Sponsored
Football Sponsored

ตามที่ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน “สิงห์ จูเนียร์ คัพ” ครั้งที่ 24 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2 แสนบาท โดยวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นการเปิดโอกาสให้นักเตะยุวชนจากทั่วประเทศไทยในรุ่นอายุ 10 ปี และ รุ่นอายุ 12 ปี ที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอล และเข้าร่วมการแข่งขันและโชว์ทักษะด้านกีฬาฟุตบอลและเป็นการพัฒนาศักยภาพนักเตะระดับเยาวชนของไทยให้ก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นต่อไป โดยแข่งขันในคัดเลือกในรอบภูมิภาค จำนวน 10 สนามทั่วประเทศไทยเพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมทั้ง 10 สนามเข้ามาชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศ รอบสุดท้าย ในวันเด็กแห่งชาติ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566  ซึ่งจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย พร้อมทั้งกับโครงการคลินิกฟุตบอลให้กับเด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะจากนักฟุตบอลระดับอาชีพ ที่จะมาเปิดประสบการณ์ในเล่นเตะฟุตบอลน้องเยาวชนอีกด้วย

ซึ่งการแข่งขันฟุตบอล 7 คน เยาวชน “สิงห์ จูเนียร์คัพ ครั้งที่ 24” รอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ในวันเด็กแห่งชาติ ที่ ณ สนาม Winning Seven  พุทธมณสาย1 กรุงเทพฯ  ได้รับเกียรติจาก คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการฝ่ายงานกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คุณวาระ โชตน์ธเนส Division Manager –Brand Management Beverage 1 บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และ คุณกัณ ภูปรัสสานนทน์ ผู้จัดการส่วน Special Channel กรุงเทพ-ชานเมือง บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดและมอบรางวัลให้กับทีมชนะเลิศ

ด้านการชิงชัยในครั้งมีสุดยอดทีมนักเตะรุ่นจิ๋วรุ่นอายุ 10 ปี และ 12 ปี ตัวแทนจากภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศจำนวน 20 ทีม ซึ่งแบ่งเป็นรุ่นละ10 ทีม  มาร่วมฟาดแข้งแย่งชิงตำแหน่งแชมป์กันในครั้งนี้ เพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2 แสนบาท โดยทีมแชมป์ในแต่ละรุ่นจะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท, รองแชมป์ 20,000 บาท, ที่สาม 10,000 บาท, ที่สี่ 5,000 บาท โดยไฮไลต์อยู่ที่รอบชิงชนะเลิศ รุ่นอายุ 10 ปี เป็นการพบกันระหว่าง ทีมนักเตะรุ่นจิ๋ว ใจฟ้า อะคาเดมี่ พบกับ ทีม MBF อัมพวา FC โดยเกมแข่งขันในคู่นี้เป็นอย่างสนุกสูสี ก่อนผลที่ผ่านจะจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินหาแชมป์ด้วยการดวลลูกจุดโทษ ก่อนที่จะเป็น แข้งจิ๋ว ใจฟ้า อะคาเดมี่ ที่ยิงแม่นกว่าเฉือนเอาชนะไปได้แบบหวุดหวิด 4-3 ผงาดคว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท ส่วนรองแชมป์ ทีม MBF อัมพวา FC รับ 15,000 บาท ขณะที่คู่ชิงอันดับ 3 จิม ธอมป์สัน ฟาร์ม อะคาเดมี่ ดวลจุดโทษชนะ KKD อะคาเดมี่ 3-2 (เสมอในเวลา 1-1) คว้าอันดับ 3 พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท

ขณะที่รุ่นอายุ 12 ปี รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมนักเตะรุ่นจิ๋ว สโมสรฟุตบอลบางกะปิ ลงดวลกับ ทีมโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ ซึ่งเกมคู่นี้สนุกสูสีไม่แพ้โดยกันในเวลากินกันไม่ลงเสมอกันไป 1-1 ทำให้ต้องชี้ชะตาในการดวลจุดโทษ ก่อนที่จะเป็น แข้งรุ่นจิ๋วจากบางกะปิ ที่ยิงแม่นกว่าเฉือนเอาชนะไปได้ 3-2 คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาทไปครอง ส่วนรองแชมป์ โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ รับ 15,000 บาท ขณะที่คู่ชิงอันดับ 3 เจแฟม ยูไนเต็ด เฉือนชนะ ทีมโกลเด้นบอย 2-1 คว้าอันดับ 3 พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท

นอกจากกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลแล้วในงานยังได้นำ 3 แข้งดังนักฟุตบอลอาชีพ อย่าง “เต้” พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทยจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, “เบนซ์” ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา แนวรุกจากสโมสรการท่าเรือ เอฟซี และ “เมสซี่เฟรม” ปัณณวัชร์ โชติจิรชัยธรณ์ แนวรุกดาวรุ่งเมืองทอง ยูไนเต็ด เดินทางมาร่วมแชร์ประสบการณ์ทักษะฟุตบอลเปิดคลินิกสอนฟุตบอลให้กับน้องเยาวชนที่มาร่วมงาน จนรวมไปถึงบการเปิดบูธกิจกรรมให้น้องๆ ได้มาร่วมสนุกเพิ่มชิงของรางวัลอีกมากมายอีกด้วย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.