ก่อนจะพักเบรกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ “ปิศาจแดง” ก็กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเมื่อกลับมาแข่งอีกครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด จะรักษาฟอร์มได้หรือไม่
ซึ่งตอนนี้ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ก็ได้ให้คำตอบกระจ่างชัดแล้วว่าเขาสามารถพา “ปิศาจแดง” เดินเครื่องได้อย่างต่อเนื่องโดยช่วงบ็อกซิ่งเดย์ก็เก็บชัยชนะ 3 นัดรวดเลยทีเดียว จนทำให้ตอนนี้เกาะกลุ่มหัวตารางมีโอกาสจบท็อปโฟร์ค่อนข้างสูง แถมดีไม่ดีตอนนี้อาจจะมีลุ้นถึงแชมป์ลีกก็ว่าได้
แม้ว่าอาจจะดูพูดเว่อร์วังอลังการว่า “ปิศาจแดง” จะมีลุ้นแชมป์ลีกทั้งที่โอกาสเป็นไปได้ยาก แต่บอลพรีเมียร์ลีกนั้นเป็นลีกที่ไม่แน่นอน อยู่ดีๆทีมนำฟอร์มรูดจนหมดลุ้นแชมป์ก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง
หรือบางทีทีมที่หมดลุ้นท็อปโฟร์ไปแล้วอยู่ไกลถึงท้ายตารางก็ยังกลับมาคว้าตำแหน่งได้ เช่นเดียวกับบางทีมที่ออกสตาร์ตฤดูกาลได้ห่วยแตกรั้งอันดับ 14-15 จนถึงกลางซีซัน ก่อนจะมาเร่งเครื่องคว้าแชมป์ไปครองก็มี
โดยตอนนี้แข่งไปเพียงแค่ 17 นัดหนทางยังอีกยาวไกลบอกได้เลยว่าได้ลุ้นกันยาวๆไป
จากฟอร์มของ “ปิศาจแดง” ชั่วโมงนี้ บอกได้เลยว่าในฐานะสาวก “เรด เดวิลส์” เซอร์ไพรส์เช่นกัน เพราะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแม้ว่าฟอร์มการเล่นจะดูเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ไม่คิดว่าจะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ติแบบนี้
นอกจากเทน ฮาก ที่เข้ามาวางรากฐานของ “ปิศาจแดง” ให้แน่นปึ้กมากขึ้นแล้ว การเสริมทัพของยูไนเต็ดถือว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะการคว้าตัวของคาเซมิโร กองกลางตัวตัดเกมทีมชาติบราซิลมาจาก “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทีมดังจากลา ลีกา สเปน มาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดที่สุดของแมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้เลย
ตอนคว้าตัวมาใหม่ๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โดนแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามกระแนะกระแหนว่า จ่ายค่าตัวแพงเกินจริงหลังต้องจ่ายไป 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,459 ล้านบาท) บวกโบนัสอีก 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 409 ล้านบาท) กับกองกลางวัย 31 ปี
แถมตอนมาแรกๆ คาเซมิโรก็นั่งสำรองไปหลายนัดไม่ได้โอกาสลงสนามมากเท่าไร ยิ่งทำให้ทาง “ปิศาจแดง” ยิ่งโดนล้อหนักไปอีกว่าซื้อนักเตะแพงมานั่งสำรอง
แต่หลังจากทางเทน ฮาก บ่มเพาะ คาเซมิโร จนเข้าที่เข้าทางแล้วก่อนจะปล่อยลงวาดลวดลายแค่เกมแรกก็ทำให้ “ปิศาจแดง” ดูดีขึ้น โดยเฉพาะเกมตรงกลางสนามที่แน่นปึ้กไม่เสียบอลง่ายเหมือนตอน “สกอตต์ แมคโทมิเนย์-เฟร็ด” ยืนปักหลักตรงกลาง
จนมาถึงตอนนี้พวกปากหอยปากปูที่เหน็บแนมกองกลางทีมชาติบราซิลรายนี้ว่าค่าตัวแพงเกินจริงก็ต้องเงียบปากไปซะสนิทหลังจากกองกลางวัย 31 ปีโชว์ฟอร์มในระดับ “เวิลด์ คลาส” ให้เห็นเกือบแทบทุกเกม
ไม่ว่าจะเป็นการตัดเกม, ครองบอล, พลิกเกม, จ่ายบอลคิลเลอร์พาส หรือแม้กระทั่งยิงประตูสวยๆ คาเซมิโร ทำให้ “ปิศาจแดง” ทั้งหมดทุกอย่าง เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้ “ผี” หมดแล้ว
และการมาของคาเซมิโร ทำให้บรรดานักเตะแนวรุกสามารถเดินเกมได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องพะวงเกมรับ เพราะมีอดีตกองกลางเรอัล มาดริด ยืนปักหลักเก็บเคลียร์ให้ทั้งหมด
ชั่วโมงนี้ยกให้คาเซมิโร เป็น “เดอะ แบก” ของ “ปิศาจแดง” โดยแท้จริง!!
มะระหวาน
This website uses cookies.