ห้ามพลาดซ้ำสอง

ก่อนหน้านี้มีความกังวลใจเหมือนกันว่าหลังจากเบรกหลีกทางให้ศึก “เวิลด์ คัพ 2022” แล้วบรรดาทีมที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงก่อนหน้านี้อาจจะเครื่องดับก็เป็นได้ โดยเฉพาะอาร์เซนอล ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครในลีกมา 8 นัดติด โดยชนะ 7 นัด เสมอ 1 นัด

แต่หลังจากกลับมาลงสนามในศึกบ็อกซิ่งเดย์ “เดอะ กันเนอร์ส” ยังคงโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องเก็บชัยชนะทั้งสองนัดที่ลงทำการแข่งขันด้วยการชนะเวสต์แฮม 3-1 (26 ธ.ค.) และชนะไบรท์ตัน 4-2 (31 ธ.ค.)

ทำให้ตอนนี้อาร์เซนอลครองตำแหน่งจ่าฝูงข้ามปีได้อย่างยอดเยี่ยมและจนมาถึงตอนนี้ “เดอะ กันเนอร์ส” นำห่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง ถึง 7 แต้มเลยทีเดียว

ตอนแรกสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ก็ค่อนข้างกังวลหลังจากกาเบรียล เชซุส กองหน้าทีมชาติบราซิล ดาวซัลโวของทีมในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก ได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักยาว 3 เดือน

ทำให้มีความกังวลว่า “ไอ้ปืนใหญ่” จะประสบปัญหาเรื่องการจบสกอร์เพราะตัวแทนของเชซุสอย่าง เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ ดาวยิงชาวผู้ดี ก็ยังไม่ได้อยู่ระดับที่ทดแทนอดีตกองหน้าแมนฯ ซิตี้ ได้ 100 เปอร์เซ็นต์

แต่เอ็นเคเทียห์ก็สร้างผลงานยิงได้ 2 ประตูจาก 2 เกมที่ลงสนามแทนที่ของเชซุสแบบไม่ขัดเขิน

นอกจากเอ็นเคเทียห์แล้วทั้งกาเบรียล มาร์ติเนลลี กองหน้าทีมชาติบราซิล และบูกาโย ซากา ปีกทีมชาติอังกฤษ ก็ยังร้อนแรงไม่มีหยุดเดินเกมรุกทางปีกขวาและซ้ายได้สะเด่าแข้งจริงๆ แถมยังยิงประตูกันได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หัวใจในเกมรุกของ “เดอะ กันเนอร์ส” จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับมาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมชาวนอร์เวย์ ที่สร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์ให้เพื่อนร่วมทีมได้เสมอ จ่ายคิลเลอร์พาสสวยๆ ให้แนวรุกจบสกอร์ง่ายขึ้น เท่านั้นยังไม่พอยังสามารถทะลุทะลวงขึ้นไปยิงประตูเองก็ได้อีกด้วย

นอกจากแนวรุกแล้วกลางสนามก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญในการประสบความสำเร็จของอาร์เซนอลจนมาถึงตอนนี้ ทั้งโธมัส ปาร์เตย์ และกรานิต ชากา เมื่อลงเล่นด้วยกันเมื่อไรก็เก็บกินบอลกลางสนามและแย่งบอลจากเท้าคู่ต่อสู้ได้แบบไม่ยาก

แถมทั้งคู่นอกจากตัดบอลได้เก่งพอๆกันแล้วก็ยังมีทีเด็ดในการออกบอลที่ค่อนข้างฉลาดและได้เปรียบทำให้แนวรุกของ “ปืนใหญ่” เล่นได้ง่ายมากขึ้น

ขณะที่แนวรับของ “เดอะ กันเนอร์ส” ยุคนี้ถือว่าเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งมากที่สุดนับตั้งแต่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุดในฤดูกาล 2003-2004 เลยทีเดียว ทั้งเบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ประสานงานกันได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับผู้รักษาประตูอย่างอารอน แรมส์เดล ที่เหนียวหนึบสุดๆ

เรียกได้ว่าเป็นขุมกำลังของ “ปืนใหญ่” ที่ลงตัวแบบสุดๆ

แม้ว่าหลายคนจะมองว่าทีมชุดนี้ยังขาดประสบการณ์และอาจจะแหกโค้งได้ แต่เชื่อว่า มิเกล อาร์เตตา กุนซือคนเก่งที่มีประสบการณ์จากการชวดอันดับ 4 เมื่อซีซันที่แล้ว

เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นบทเรียนสำคัญให้ทางแข้งอาร์เซนอลจำขึ้นใจว่าจะพลาดซ้ำสองไม่ได้อีกแล้ว

ซึ่งถ้าพลาดอีกครั้งนี้มันหนักหนาสาหัสกว่า เดิมเพราะมีถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพัน!!

มะระหวาน