รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2022
ผลการแข่งขัน: น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-1 เชลซี
สนาม: ซิตี้ กราวด์
สิงห์บลู เล่นไม่สมราคา
แม้ว่าเกมนี้จะเป็น เชลซี ที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่าชัดเจนเฉลี่ยเกินกว่า 70% แต่นั้นไม่ได้หมายความว่ารูปเกมของพวกเขาจะมาเหนือกว่าแต่อย่างใด เพราะนั่นเป็นแผนของ ฟอเรสต์ ที่ถอยมาตั้งรับต่ำทั้งทีมและรอให้ผู้มาเยือนเปิดพื้นที่แดนหลังก่อนจะใช้ความเร็วในการสวนกลับ และมันก็เป็นเช่นนั้น สิงห์บลู ไม่สามารถเจาะแนวรับของเจ้าถิ่นได้เลยทำได้เพียงครองบอลอยู่กลางสนามแถมยังมีจังหวะโดนสวนกลับที่เกือบจะเสียประตูหลายครั้ง ยังดีที่โชคเข้าข้างให้ เชลซี นำก่อนจากจังหวะที่กองหลังเจ้าบ้านสะกัดผิดเหลี่ยมไปชนคานเด้งมาเข้าทาง สเตอร์ลิง มิฉนั้นก็แทบไม่มีโอกาสได้ลุ้นจ่อ ๆ เลยตลอดทั้งเกม ครึ่งหลัง ฟอเรสต์ ก็เปิดเกมบุกมากขึ้นและตีเสมอได้เร็ว แถมหลังจากนั้นทีมน้องใหม่ก็ไม่ได้ถอยไปตั้งรับอย่างเดียวแต่ยังพยายามหาช่องโจมตีหวังขึ้นนำอีกด้วย ซึ่งก็ชัดเจนว่าครึ่งหลังเป็น ฟอเรสต์ ที่เล่นได้ดีกว่าแต่ยังขาดความเฉียบคม ทำให้สุดท้ายเกมก็จบลงด้วยการแบ่งแต้มสุดชอกช้ำของยักษ์ใหญ่จาก ลอนดอน ไปในค่ำคืนนี้
การแก้เกมของ พ็อตเตอร์ ถูกตั้งคำถาม
ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่เกมแรกที่ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้กับ เชลซี ได้ จนเกมจบลงด้วยผลการแข่งขันอันน่าผิดหวัง โดยนัดนี้แม้ เชลซี ที่เก็บบอลไว้กับทีมได้มากกว่าแต่พวกเขาแทบจะหาช่องเจาะเกมรับของ ฟอเรสต์ ไม่ได้เลย ดีที่มีโชคช่วยทำให้ทีมออกนำไปก่อน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เกมตื้อตันหนักกว่าเก่าเพราะเมื่อนำแล้วพวกเขาก็แทบไม่พยายามจะเสี่ยงบุกหนัก กระทั่งครึ่งหลังเหมือนหนังคนละม้วน เจ้าบ้าน ทำเกมบุกเข้าใส่บ้างจนเห็นชัดเจนว่าเกมของ สิงห์บลู ตื้อลงไป เสียบอลง่าย บุกไม่ขึ้น แต่จนแล้วจนรอดไม่ว่า พ็อตเตอร์ จะเปลี่ยนใครลงมาเกมก็ดูจะไม่ดีขึ้นเท่าใดนัก นั่นก็เป็นเพราะพวกเขายังเล่นในแนวทางแบบเดิมแค่เปลี่ยนหน้าคนเล่นเท่านั้น วิธีเข้าทำก็ไม่ได้หลากหลายขึ้น เกมก็ยังตันเหมือนเดิม อึดอัดเหมือนเดิม ซึ่งนี่กลายเป็นจุดให้แฟน ๆ สิงโตน้ำเงินคราม เริ่มตงิด ๆ ในใจแล้วว่าอดีตกุนซือ ไบรท์ตัน เจ๋งจริงหรือไม่เพราะดูเหมือนว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้นดูจะสอบตกแบบไม่มีท่าทีว่าจะพัฒนาขึ้นเท่าใดนัก
โละทั้งทีมยังได้
จากผลงานนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลมา นักเตะของ เชลซี หลายคนในชุดนี้รวมถึงนักเตะใหม่ที่ย้ายเข้ามากลับทำผลงานได้น่าผิดหวังทั้งที่แต่ละคนค่าตัวแพงกระเป๋าฉีก สเตอร์ลิง ชัดเจนว่าไม่ได้ต่างอะไรเลยกับ โอดอย โอบาเมยอง ที่ผ่านจุดพีคไปแล้วก็โรยราตามสภาพ คูลิบาลี ที่ก็ยังไม่นิ่งเข้าบอลโฉ่งฉ่าง คูคูเรญา ก็สร้างความแตกต่างกับ ชิลเวลล์ ไม่ได้ ซากาเรีย ทรงก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ซึ่งนี่จะเรียกว่าเป็นความผิดพลาดของแผนกสรรหานักเตะของทีมเลยก็เป็นได้ ที่ไปคว้านักเตะมาแบบลวก ๆ จนผลงานตกต่ำแบบนี้ แน่นอนหากสภาพยังไม่ดีขึ้นจนจบฤดูกาลนอกจากบอร์ดบริหารชุดใหม่จะต้องทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อสร้างทีมใหม่แล้ว นักเตะเก่า ๆ ใครโละได้ก็โละไปเถอะไม่ต้องเสียดาย…
โปรแกรมเดือดในรอบเดือน
ผมเสมอในเกมนี้ทำให้ เชลซี พลาดโอกาสในการทำอันดับไล่จี้พื้นที่ยุโรป โดยปัจจุบันพวกเขารั้งอันดับที่ 8 มี 25 แต้มจาก 16 เกมตามหลังพื้นที่ท็อป 4 อยู่ 7 คะแนน แต่กระนั้นสองเกมต่อไปของ สิงห์บลู ดูจะสาหัสสุด ๆ เพราะเป็นการพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งสองนัด เริ่มจากการเกมลีกที่จะเล่นในบ้านคืนวันพฤหัสบดีที่จะถึงก่อนจะบุกไปเยือน เอติฮัด ในเกม เอฟเอ คัพ วันอาทิตย์ หลังจากนั้น สิงโตน้ำเงินคราม มีคิวต้องทำศึกลอนดอนดาร์บี้กับทั้ง ฟูแลม และ คริสตัล พาเลซ ก่อนจะปิดท้ายเดือดมกราคมด้วยการบุก แอนฟิลด์ รังเหย้าของ ลิเวอร์พูล นั่นเอง
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด