1. ผู้รักษาประตู: เอมิเลียโน มาร์ติเนซ
ตำแหน่งผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะสิ้นสุดลงตกเป็นของ โดมินิค ลิวาโควิช นายทวารทีมชาติ โครเอเชีย ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดเส้นทางในรอบน็อคเอาท์ ก่อนที่ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ งัดโคตรเซฟในช่วงการดวลลูกจุดโทษพาทีมชาติ อาร์เจนตินา กรุยทางสู่นัดชิงชนะเลิศสำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นนายด่านจาก แอสตัน วิลลา ยังเซฟช่วยทีมในการดวลเป้าตัดสินแชมป์ในเกมไฟนัลอีกด้วย
แม้แบ็คขวาทีมชาติ โมร็อกโก จะไร้สกอร์และทำได้เพียง 1 แอสซิสต์ทว่า อชราฟ ฮาคิมี มีส่วนสำคัญกับเกมรุกของที่ฝั่งขวา ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง อาคิม ซิเยค อย่างลื่นไหลโดยที่ไม่ได้มีนักเตะในตำแหน่งเดียวกันในทัวร์นาเมนต์นี้คนใดจะโดดเด่นไปกว่าเขา กับการพาทีมหักด่านสร้างเซอร์ไพรส์ตะลุยไปถึงรอบรองชนะเลิศและจบรายการด้วยการคว้าอันดับที่ 4
3. เซ็นเตอร์แบ็ค: โรแม็ง ซาอิสส์
อดีตปราการหลังสังกัด วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส วัย 32 ปีทำผลงานได้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะในรอบแบ่งกลุ่ม รวมทั้งเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับพา โมร็อกโก อุดประตูเขี่ยบิ๊กทีมอย่าง สเปน และ โปรตุเกส ตกรอบ และน่าเสียดายที่ โรแม็ง ซาอิสส์ สามารถลงสนามได้เพียง 20 นาทีในเกมตัดเชือกกับ ฝรั่งเศส จากปัญหาอาการบาดเจ็บ
ระหว่างเส้นทางในรอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบตัดเชือกแม้ว่า โครเอเชีย จะหยุดเส้นทางไว้เพียงรอบรองชนะเลิศ แต่เป็น ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เซ็นเตอร์แบ็คสังกัด แอร์เบ ไลป์ซิก วัยเพียง 20 ปีคือคีย์แมนที่แผงแนวรับในทีม ซลัทโก้ ดาลิช โดยเฉพาะการยืนถูกที่ ถูกเวลาดักเก็บช็อตสำคัญช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง
5. แบ็คซ้าย: เตโอ แอร์น็องเดซ
แอร์น็องเดซ ผู้น้องซึ่งได้รับโอกาสแทนพี่ชาย ลูก้าส์ เมื่อแบ็คซ้ายตัวจริงสังกัด บาเยิร์น มิวนิค ได้รับบาดเจ็บจนต้องบอกลาทัวร์นาเมนต์ตั้งแต่เกมนัดแรกโดย เตโอ ก็ทำหน้าที่แทนได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะการประสานงานร่วมกับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่กราบซ้าย เจ้าตัวจบทัวร์นาเมนต์ด้วย 2 แอสซิสต์และ 1 ประตูในเกมรอบรองชนะเลิศที่ยิงใส่ โมร็อกโก
เมื่อทีมชาติ ฝรั่งเศส ไร้เงา ปอล ป็อกบา และ เอ็นโกโล ก็องเต้ จากปัญหาอาการบาดเจ็บ ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ แก้ปัญหาด้วยการจับเอา อองตวน กรีซมันน์ ประจำการรับบทบาทมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์และกลายเป็นการงัดฟอร์มที่โดดเด่นของดาวเตะสังกัด แอตเลติโก มาดริด ในตำแหน่งใหม่ที่แปลกตาออกไปโดยแข้งวัย 31 ปีจบทัวร์นาเมนต์ด้วยสถิติ 3 แอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม
7. กองกลางตัวรับ: โซฟียาน อัมราบัต
มิดฟิลด์วัย 26 ปีสังกัด ฟิออเรนตินา ทำผลงานที่แดนกลางได้อย่างโดดเด่นตลอดทัวร์นาเมนต์โดยเฉพาะการรับบทบาทปัดกวาดหน้าแผงแบ็คโฟร์ของ โมร็อกโก จนเจ้าตัวตกเป็นที่เนื้อหอมใน ตลาดซื้อขายนักเตะ เดือนมกราคมซึ่งมี ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในสโมสรที่จับตาสถานการณ์ของห้องเครื่องรายนี้อย่างใกล้ชิด
เอ็นโซ เฟร์นันเดซ ทำผลงานในระดับคว้าตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำ ฟุตบอลโลก 2022 ผู้ปิดทองหลังพระขับเคลื่อนแดนกลางของทีมชาติ อาร์เจนตินา เป็นกำลังสำคัญพาทัพ ฟ้าขาว เถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์โลกเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขาโดยดาวเตะวัย 21 ปีจบทัวร์นาเมนต์ด้วยสถิติ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์
9. กองหน้าฝั่งขวา: ลิโอเนล เมสซี
ลิโอเนล เมสซี กับสถิติ 7 ประตูและ 3 แอสซิสต์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ อาร์เจนตินา คว้าแชมป์โลกตามรอยอย่างที่ ดีเอโก้ มาราโดนา เคยเป็นคีย์แมนของพลพรรค ลา อัลบิเซเลสเต้ ในปี 1986 ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในแข้งที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกเมื่อดาหน้ากวาดทุกโทรฟีแชมป์มาครอง
ดาวยิงสังกัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ร่วมทัพ ฟ้าขาว ในฐานะกองหน้าตัวเลือกรองก่อนที่เขาจะตะบัน 4 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ให้กับทีมของ ลิโอเนล สคาโลนี โดย 2 ประตูในนั้นเกิดขึ้นในเกมถล่ม โครเอเชีย 3-0 ในรอบรองชนะเลิศส่งทีมสู่เกมนัดชิงฯ สำเร็จ
11. กองหน้าฝั่งซ้าย: คิลิยัน เอ็มบัปเป้
แม้ท้ายที่สุด คิลิยัน เอ็มบัปเป้ จะอกหักให้กับเพื่อนร่วมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อย่าง ลิโอเนล เมสซี ในเกมนัดชิงชนะเลิศแต่ดีกรีดาวซัลโวสูงสุดของ เวิลด์คัพ 2022 และสังหารประตูหนึ่งในลูกยิงที่สวยที่สุดของทัวร์นาเมนต์ในลูกตีเสมอ 2-2 ในแมตช์สุดท้ายทำให้แข้งวัย 23 ปีทะยานเข้ามาอยู่ในทีมที่ดีที่สุดแห่งทัวร์นาเมนต์นี้ของเรา