Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

บิ๊กอ๊อด แนะ นิชิโนะ เรียกนักเตะเข้าแคมป์ให้เยอะที่สุด เผื่อเลือกใช้งาน

Football Sponsored
Football Sponsored

บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมบอลไทย ออกโรงแนะ อากิระ นิชิโนะ กุนซือช้างศึกเรียกนักเตะเข้าแคมป์ให้มากที่สุดเพื่อเป็นตัวเลือก

บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมทัพ “ช้างศึก”ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การนำของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือใหญ่ชาวญี่ปุ่น ในการลงแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี โดยจะเตะสนามกลางที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในช่วงเดือนมิ.ย.

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ด้วยความเป็นมืออาชีพของนิชิโนะ เชื่อว่าจะเตรียแผนงานเอาไว้แล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ช่วงนี้คงต้องให้นักเตะที่เพิ่งเสร็จสิ้นฟุตบอลลีกได้พักไปก่อน จากนั้นคงจะมีการเรียกนักเตะเข้าแคมป์

  • เอฟเอ คัพ เดือด! บุรีรัมย์ ฟัด ชลบุรี- แบงค็อก – สิงห์ เชียงราย

“เมื่อ 2 วันก่อน นิชิโนะ พร้อมด้วยหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมหญิง ได้เข้ามารายงานการทำงานไปบ้างแล้ว ในส่วนของการเข้าแคมป์เก็บตัวในช่วงแรกนั้น โดยส่วนตัวผมแนะนำ นิชิโนะ ไปว่าอยากให้เรียกนักเตะเข้ามาเยอะๆ เพื่อจะได้ดูผู้เล่นหลายๆ คน เป็นตัวเลือกเพิ่มเติม คือต้องการให้โค้ชเห็นนักเตะให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จากนั้นจะตัดตัว หรือเลือกใครเพื่อลงทะเบียนกับเอเอฟซี ค่อยว่ากันอีกครั้ง”

“โดยในส่วนของสมาคมได้ทำหนังสือประสานงานไปถึงทุกสโมสรอยู่แล้วในกรณีที่นักเตะของสโมสรอาจจะโดนเรียกตัวติดทีมชาติ ซึ่งทุกสโมสรให้การยืนยันกลับมาแล้วว่าพร้อมให้ความร่วมมือปล่อยนักเตะตามที่โค้ชต้องการอย่างเต็มที่”

“นอกจากนี้สมาคมกำลังรอหนังสือตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องที่เราขอให้นักกีฬาและทีมงานที่ต้องเดินทางไปแข่งขันที่ยูเออีนั้นได้รับวัคซีนโควิด-19 ก่อนการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของนักเตะไทยอีก รวมถึงความสะดวกในการเตรียมตัวสำหรับเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก”

สำหรับทีมชาติไทย มีโปรแกรมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี อีก 3 นัด ประกอบด้วย การพบกับอินโดนีเซีย พบยูเออี และมาเลเซีย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.