นี่คือเกมสุดท้ายของผม! มาร์ติเนซ คอนเฟิร์มลาเก้าอี้กุนซือทีมชาติเบลเยียม
ทางการแล้ว… โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ประกาศลาตำแหน่งกุนซือทีมชาติเบลเยียมเรียบร้อย หลังจากที่ทีมปิดฉากศึกฟุตบอลโลก 2022 แค่รอบแบ่งกลุ่ม
โรแบร์โต้ มาร์ตีเนซ โค้ชชาวสแปนิช ยืนยันว่า ตนได้ตัดสินใจเรียบร้อย ที่จะก้าวลงจากตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติเบลเยียม หลังจากที่ทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทำได้แค่เสมอ โครเอเชีย 0-0 จอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่ม (กลุ่ม เอฟ) ในศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา
“นี่คือเกมสุดท้ายของผมกับทีมชาติเบลเยียม” กุนซือวัย 49 ปี ซึ่งกำลังจะหมดสัญญากับทีมหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 กล่าว “ผมตัดสินใจตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์แล้ว และแน่นอนว่า มันเป็นอะไรที่สะเทือนใจไม่น้อยเลย”
ทั้งนี้ มาร์ติเนซ เข้ารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติเบลเยียม แทน มาร์ค วิลม็อตส์ เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม ปี 2016 โดยเจ้าตัวคุมทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ไปทั้งสิ้น 80 นัด มีสถิติชนะ 56, เสมอ 13, แพ้ 11 นัด
ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.