Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“ดร.ก้อง” ยันปิดดีลยิงสดฟุตบอลโลกวีกนี้-ฟาก8ชาติอาเซียนคว้าลิขสิทธิ์แล้ว

Football Sponsored
Football Sponsored

กกท.ยังเดินหน้าเต็มกำลัง ประสานรอบทิศ หวังปิดดีลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ให้ประชาชนชาวไทยได้ชมและเชียร์ ผู้ว่าการกกท. เผย เวลานี้ยังมีการเจรจากับทางเอเยนต์ถ่ายทอดสดตัวแทนฟีฟ่าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเสนอรายละเอียด ความพร้อม และข้อจำกัดของไทย ที่ต้องมีการประสานความร่วมมือจากหลายฝ่ายหลายทาง ทั้งภาครัฐ กกท. และ กสทช. รวมถึงเอกชนไปแล้ว อีกทางได้ส่งข้อมูลให้กสทช. รับทราบควบคู่กันไปด้วย คาดในสัปดาห์นี้ ดีลถ่ายทอดสดจะเรียบร้อย ด้านชาติอาเซียน 8 ประเทศ ต่างได้ลิขสิทธิ์กันไปแล้ว ซึ่งมีการซื้อโดยภาครัฐ และเอกชน โดยมีทั้งที่เปิดดูได้ฟรีและเสียเงิน โดยเหลือ ไทย, สปป.ลาว และ เมียนมา คือ 3 ชาติที่ยังไม่ได้บรรลุเจรจาคว้าลิขสิทธิ์

ความคืบหน้าการดำเนินการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างวันที่ 20 พ.ย. -18 ธ.ค.65 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งถึงเวลานี้ เหลือเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะเปิดฉากฟาดแข้งกันแล้ว แต่สำหรับไทย หนึ่งในประเทศที่มีความนิยมชมชอบและคลั่งไคล้การชมฟุตบอลมากที่สุดอีกชาติหนึ่งในอาเซียน ยังคงไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ทำให้แฟนบอลชาวไทย ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะได้รับชมกันหรือไม่ อย่างไร และในช่องทางใดบ้าง

ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ตอนนี้ กกท. กำลังทำงานอย่างหนัก ประสานงานทุกด้านอย่างเต็มที่ ตามแนวทางของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดกกท. ที่ต้องการให้ชาวไทยได้ชมฟุตบอลโลกครั้งนี้แบบฟรีๆ โดยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.65 ได้เจรจาพูดคุยกับทางเอเยนต์ถ่ายทอดสดตัวแทนฟีฟ่า ต่อเนื่อง มีการเสนอรายละเอียดความพร้อม และข้อจำกัดของไทย ที่ต้องมีการประสานความร่วมมือจากหลายทาง ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ กกท. และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมถึงเอกชน ไปแล้ว ซึ่งน่าจะมีผลตอบรับกลับมาในวันถัดไป ขณะที่ อีกทางก็ได้ส่งข้อมูล ให้ กสทช. รับทราบควบคู่กันไปแล้ว คาดภายในสัปดาห์นี้ ดีลถ่ายทอดสดครั้งนี้ น่าจะเรียบร้อย

ด้านข้อมูลเบื้องต้นของชาติอาเซียน มี 8 ประเทศที่ได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ไปแล้ว โดย บรูไน จะถ่ายทอดสด ผ่านทางช่อง Kristal-Astro, กัมพูชา ผ่านทางช่อง TVK, ติมอร์ตะวันออก ผ่านทางช่อง ETO-Telco, อินโดนีเซีย ผ่านทางช่อง Emtek, ฟิลิปปินส์ ผ่านทาง TAP DMV, สิงคโปร์ ผ่านทาง MediaCorp, Singtel, StarHub, เวียดนามผ่านทาง VTV, มาเลเซีย ผ่านทาง Astro และ RTM โดยในส่วนของ ไทย, สปป.ลาว และ เมียนมา ยังไม่ได้ลิขสิทธิ์ โดยในอาเซียนชาติต่างๆ ซื้อลิขสิทธิ์โดยสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล ได้แก่ มาเลเซีย, เวียดนาม และ กัมพูชา ยกตัวอย่าง เวียดนาม โดย VTV ประกาศซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 เป็นเงินถึง 14 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 532 ล้านบาท ส่วนมาเลเซีย ซื้อลิขสิทธิ์ด้วยตัวเงินประมาณ 32.5 ล้านริงกิต หรือประมาณ 261 ล้านบาท จะถ่ายทอดสดฟรีทางช่อง RTM จำนวน 41 แมตช์

ส่วนที่เป็นภาคเอกชนซื้อลิขสิทธิ์ แต่ ฟีฟ่า ระบุไว้ชัดเจนว่า จะต้องมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนสามารถรับชมได้ด้วย ตัวอย่าง สิงคโปร์ จะถ่ายทอดสดผ่านสตรีมมิ่ง โดย StarHub และ Singtel สนนราคา 64 แมตช์อยู่ที่ 98 เหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2,636 บาท แต่จะถ่ายทอดแบบฟรี ทู แอร์ ในแมตช์สำคัญ 9 แมตช์ ทาง MediaCorp ช่อง 5 ขณะที่ ฟิลิปปินส์ ผ่านทาง TAP สามารถรับชมทุกแมตช์ผ่านระบบเปย์เปอร์วิวที่ 1,999 เปโซ หรือประมาณ 1,306 บาท

ที่มาของภาพ :

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.