เอฟซี ซัลซ์บวร์ก หรือ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีมดังจากลีกออสเตรีย กำลังนำเป็นจ่าฝูงของศึกออสเตรียน บุนเดสลีกา จากผลงานอันยอดเยี่ยม ชนะ 9 เสมอ 3 แพ้ 1 โดยเกมนัดล่าสุด คือการเปิดบ้านเจ๊ากับ สตวร์มกราซ 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ผลงานในศึกถ้วยนี้ พวกเขาชนะ 1 เสมอ 3 มี 6 แต้ม รั้งรองจ่าฝูงของกลุ่ม E
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ มัทธิอัส ไยสส์เล่ กุนซือซัลซ์บวร์ก มีปัญหาอย่างหนักในการจัดทัพ เมื่อจะไม่สามารถใช้งานแข้งที่มีอาการบาดเจ็บมากถึง 10 ราย ประกอบด้วย ไบรอัน โอคอห์, มามาดี้ เดียมบู, อูมาร์ เดียกิเต้, แซมซั่น ติจานี่, ลูก้า ซูซิช, จัสติน โอมอเรจี, เซคู โกอิต้า, แฟร์นานโด, ดิฌง คาเมรี และ นิโกลัส คาปัลโด้ รวมทั้งยังต้องรอทดสอบความฟิตของ อันเดรียส อุลเมอร์
เกมนี้เจ้าถิ่นจะใช้ระบบ 4-3-1-2 แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย อามาร์ เดดิช, อูมาร์ โซเล่ต์, สตราฮินยา ปาฟโลวิช และ มักซิมิเลี่ยน โวเบอร์ ส่วนแดนกลางส่ง นิโกลัส ซีวัลด์, ลูคัส กูร์นา-ดูอาธ และ เมาริทส์ เคียร์การ์ด ลงประสานงานกัน โดยมี ลอว์เรนซ์ อั๊กเยคัม คอยปั้นเกมรุกให้ จูเนียร์ อดามู กับ โนอาห์ โอคาฟอร์ ไล่ล่าตาข่าย
ส่วนผู้มาเยือนอย่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับ 5 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่คว้าชัยได้ 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ พวกเขาก็เก็บได้แค่ผลเสมอในเกมลีก 2 นัดหลัง โดยเกมนัดล่าสุด คือการเปิดบ้านเจ๊ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วนในรายการนี้ สิงห์บลูส์ ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 7 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม E
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ เกรแฮม พอตเตอร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เวสลีย์ โฟฟาน่า และ รีซ เจมส์ ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บ รวมทั้งยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ คาลิดู คูลิบาลี่ ส่วนแข้งตัวหลักที่เหลือ ต่างฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนาม
คาดว่าทีมเยือนจะมาในแผน 3-4-2-1 แนวรับ 3 คน ประกอบด้วย มาร์ค คูคูเรญ่า, ติอาโก้ ซิลวา และ เทรโวห์ ชาโลบาห์ วิงแบ็ก 2 ฝั่งเป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กับ เบน ชิลเวลล์ ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ จอร์จินโญ่ กับ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ยืนคุมเกมร่วมกัน โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิง กับ เมสัน เมาท์ คอยสร้างสรรค์เกมให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เป็นตัวจบสกอร์
ซัลซ์บวร์ก : ฟิลิปป์ โคห์น (GK), อามาร์ เดดิช, อูมาร์ โซเล่ต์, สตราฮินยา ปาฟโลวิช, มักซิมิเลี่ยน โวเบอร์, นิโกลัส ซีวัลด์, ลูคัส กูร์นา-ดูอาธ, เมาริทส์ เคียร์การ์ด, ลอว์เรนซ์ อั๊กเยคัม, จูเนียร์ อดามู, โนอาห์ โอคาฟอร์
เชลซี : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (GK), มาร์ค คูคูเรญ่า, ติอาโก้ ซิลวา, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, จอร์จินโญ่, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เบน ชิลเวลล์, ราฮีม สเตอร์ลิง, เมสัน เมาท์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง
ซัลซ์บวร์ก
เชลซี
เกมนี้จะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ต่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของทั้ง 2 ทีม เนื่องจากทั้งคู่มีคะแนนห่างกันเพียงแต้มเดียว ทำให้ผู้ชนะในเกมนี้จะเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบแบบมหาศาล ก่อนลงสนามในเกมนัดสุดท้าย โดยเฉพาะ เชลซี หากคว้า 3 แต้มได้ ก็จะการันตีการผ่านเข้ารอบได้ทันที
ทั้งนี้ แม้ว่าทั้ง 2 ทีม จะเก็บได้แค่ผลเสมอในเกมนัดล่าสุด แต่ผลงานโดยรวมของพวกเขา ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจใกล้เคียงกัน และต่างก็ไม่แพ้ใครมาอย่างยาวนานเช่นกัน นอกจากนั้นผลงานการพบกันในนัดแรก ยังจบลงด้วยผลเสมออีกด้วย ทำให้การดวลกันคราวนี้ เชื่อว่ารูปเกมน่าจะออกมาแบบสูสีคู่คี่ และมีโอกาสจะจบลงด้วยการแบ่งแต้มอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วยังมองว่า สิงห์บลูส์ ที่มีสภาพทีมที่สมบูรณ์พร้อมมากกว่า อาจจะมีทีเด็ดในช่วงท้าย ช่วยให้บุกเฉือนคว้า 3 แต้ม กลับออกไปได้แบบสนุกตื่นเต้น หรืออย่างน้อยที่สุด ก็น่าจะมีแต้มติดมือในเกมนี้
————————————————-
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ – ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก
This website uses cookies.