กกท.แย้มมีเอกชนซื้อลิขสิทธิ์ ‘ฟุตบอลโลก’ ยันพร้อมจัดลานกิจกรรมทั่วประเทศ
ความคืบหน้าล่าสุดเรื่องของการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่จะฟาดแข้งที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน-18 ธันวาคม 2565 ซึ่งก่อนหน้านี้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยืนยันว่าประชาชนชาวไทยจะได้รับชมฟรีอย่างแน่นอนนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด เปิดเผยว่า การซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกนั้นเป็นนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดสดกีฬาฟุตบอลโลกผ่านทางฟรีทีวี เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับชม เนื่องจากว่าฟุตบอลโลก 4 ปีมีครั้ง การมีถ่ายทอดสดจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชน
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า สิ่งที่ภาครัฐจะทำคือการช่วยเหลือสนับสนุน แต่จะไม่เข้าไปแข่งขันหรือแย่งสิทธิจากเอกชนที่จะติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ เพราะอยากให้เอกชนเป็นหลักในการดำเนินการ แค่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งนี้ต้องมีการหารือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะที่เป็นฝ่ายรับผิดชอบเกี่ยวกับการถ่ายทอดสด คงจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้มีการถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีมากที่สุด แต่ในเรื่องของการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์มันค่อนข้างสูง ต้องรอดูภาคเอกชนว่าจะมีรายใดเข้ามาร่วมบ้าง
ดร.ก้องศักดกล่าวต่อว่า ตอนนี้มีภาคเอกชนที่ออกตัวมาแล้วบ้างแต่ยังไม่ได้ยืนยันแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ขอให้รออีกสักระยะหนึ่ง ส่วนเรื่องกำหนดเวลาต้องเรียบร้อยเมื่อไหร่นั้นไม่ได้มีการกำหนดอย่างแน่ชัด แต่อย่างที่ทราบว่าหลายประเทศมีการเจรจาเสร็จแล้ว หรือเพื่อนบ้านในละแวกอาเซียนเองก็ได้ลิขสิทธิ์กันหมดแล้ว เชื่อว่าพี่น้องชาวไทยเองก็อยากเห็นความชัดเจนเรื่องนี้ว่าจะได้ดูทางไหน ผ่านช่องทางใดบ้าง ดังนั้นจะต้องรีบทำให้เร็วที่สุด แต่ไม่ได้กำหนดเดดไลน์ใดๆ
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวเสริมว่า ในเรื่องค่าลิขสิทธิ์เองยังไม่มีการลงรายละเอียด ขอให้ทีมงานคุยกับ กสทช.ก่อน อาจจะนำเอาโมเดลในอดีตมาคุยกัน ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ส่วนการถ่ายทอดสดมีเริ่มคุยแล้วบ้าง แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะถ่ายทอดสดทางช่องใดบ้าง ขณะที่ทีสปอร์ตที่เป็นช่องของ กกท. พร้อมทำหน้าที่สนับสนุนมากกว่า แต่จะไม่เข้าไปร่วมแย่งชิงซื้อสิทธิจากใคร
นอกจากนี้ ดร.ก้องศักดยังกล่าวถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมในช่วงฟุตบอลโลกด้วยว่า ถึงแม้ว่าจะได้หรือไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ แต่ทาง กกท.ก็ตั้งใจที่จะจัดกิจกรรมร่วมกันเชียร์ เช่นติดจอยักษ์ให้ร่วมชมการแข่งขันด้วยกัน หรือจัดลานกิจกรรมเสริมสร้าง ให้ข้อมูล และให้ประชาชนได้มาร่วมสนุก ปลุกกระแสการมีส่วนร่วมกับเด็กๆ และเยาวชน ซึ่งการจัดลานกิจกรรมจะไม่ได้มีแค่ที่ กกท.หัวหมากเท่านั้น แต่จะกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ของ กกท.ในแต่ละภูมิภาคด้วย เช่น เชียงใหม่ หรือนครราชสีมา เป็นต้น