Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

อย่าเครียด! สโมสรฟุตบอลกับมุกเด็ดรับวันโกหก

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 1 เมษายนของทุกปีเป็นวันที่โด่งดังไปทั่วโลกในฐานะ “วันโกหก” หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วันเมษาหน้าโง่” โดยสาระสำคัญ (ที่เอาจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ) ของวันนี้ก็คือทุกคนสามารถพูดโกหกได้โดยที่อีกฝ่ายไม่ควรโกรธ เพียงแต่คำโกหกมันก็ควรจะเป็นแค่เรื่องเอาฮาเท่านั้น ไม่ใช่ว่าพูดโกหกในเชิงที่ร้ายแรง

    ทั้งนี้ ในขณะที่ส่วนใหญ่แล้วสโมสรฟุตบอลจะประกาศเรื่องเกือบทุกเรื่องในเชิงที่จริงจังสุดขีด แต่พอถึงวันนี้แล้วบางครั้งพวกเขาก็นึกสนุกจนพูดเรื่องโกหกเหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราขอนำเสนอตัวอย่างการโกหกจาก 5 สโมสรฟุตบอลที่เด็ดๆ เพื่อเป็นการรับวันนี้กัน

    – โลโก้ใหม่จาก เซาธ์แฮมป์ตัน
    แฟนบอล เซาธ์แฮมป์ตัน รักตราสโมสรลายปัจจุบันมากๆ โดยมันถูกใช้ในระหว่างปี 1974-2009 ก่อนที่จะเว้นวรรคไปในฤดูกาล 2010-11 เพราะตอนนั้นมีการทำตราสโมสรแบบพิเศษเพื่อฉลองการก่อตั้งทีมครบ 125 ปี แล้วจากนั้นก็กลับมาใช้ตราสโมสรแบบเดิมมาจนถึงตอนนี้ ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวก “นักบุญ” จะหลงรักตราสโมสรนี้จนสุดหัวใจไปแล้ว

    อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนปี 2016 เซาธ์แฮมป์ตัน ก็เอาตรงจุดนี้มาเรียกเสียงฮาจากแฟนๆ เพราะพวกเขาโพสต์ในตอนแรกว่า #SaintsFC มีความยินดีที่จะประกาศถึงแผนการใช้ตราสโมสรอันใหม่ตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17 เป็นต้นไป” ก่อนที่จะโพสต์ภาพรูปตราสโมสรที่เป็นการตัดต่อเอารูปหน้ายิ้มไปแปะแทนส่วนที่เป็นลูกฟุตบอล เรียกได้ว่าน่ารักสุดๆ

    – ซิงเกิลของ ชาร์ลตัน
    เมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 2019 จู่ๆ ชาร์ลตัน ก็โพสต์ข้อความว่าพวกเขากำลังจะปล่อยซิงเกิลใหม่ของสโมสร โดยจะเป็นการเอาทำนองของ “Baby Shark” เพลงสุดฮิตของเด็กๆ มาใช้ พร้อมกับดัดแปลงให้เนื้อร้องเป็นชื่อของ นาบี ซาร์ ดวาเตะของทีมแทน

    ชาร์ลตัน จริงจังกับเรื่องนี้จนถึงขั้นทำคลิปเพลงขึ้นมาด้วย ซึ่งมันก็ทำให้แฟนบอลบางส่วนประทับใจที่พวกเขาจริงจังกับการเล่นมุกในวันโกหกมากขนาดนี้

The track is a remix of the worldwide phenomenon ‘Baby Shark’ with ‘Naby Sarr’ becoming the focus of the song’s lyrics.

Supporters can hear a sample of the track before its release on Friday right here #cafc pic.twitter.com/ferg9ILFma

— Charlton Athletic FC (@CAFCofficial) April 1, 2019

    – ชุดสุดแนวของ วัตฟอร์ด
    สมัยนี้การเปิดตัวชุดแข่งตัวใหม่มันมักจะทำกันเร็วกว่าสมัยก่อน เพียงแต่การประกาศชุดแข่งตัวใหม่ในวันที่ 1 เมษายนก็ดูเป็นเรื่องที่เร็วเกินไปเยอะ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 เมษายน ปี 2019 วัตฟอร์ด ก็ตัดสินใจที่จะทำอย่างนั้น

    ทั้งนี้ ชุดแข่งตัวดังกล่าวถือว่ามีลวดลายที่โดดเด่นสุดๆ จากการที่มีการทำเป็นลายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนโดยที่มีการใส่สีเหลือง, แดง และดำ อันเป็นสีประจำสโมสรเข้าไปด้วย โดยหลังจากนั้น วัตฟอร์ด ก็เอาการแกล้งในครั้งนี้มาใช้ร่วมกับการเปิดตัวชุดแข่งตัวใหม่จริงๆ เช่นกัน

    – อาร์เซน่อล กับสนามสุดไฮเทค
    เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ถือเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลของประเทศอังกฤษที่ได้รับคำชมว่ามีความทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่ง และในปี 2016 “ไอ้ปืนใหญ่” ก็สร้างความฮือฮาให้หลายคนด้วยการกล่าวบน ทวิตเตอร์ ว่าสนามของพวกเขาจะมีการติดตั้งหลังคากันแดดแบบที่ยืดหดได้อย่างสบายๆ เหมือนที่ใช้กับบรรดารถหรู ซึ่งมันจะทำให้ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นสนามฟุตบอลแห่งแรกที่มีเทคโนโลยีแบบนั้น

    อาร์เซน่อล ถึงขั้นโพสต์คลิปที่เป็นการสัมภาษณ์นักเตะของทีมในตอนนั้น รวมถึงคนที่ดูเหมือนเป็นวิศวกรด้วย โดยทั้งหมดต่างก็พูดถึงข้อดีของการมีหลังคาแบบนั้นเช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้มันดูน่าเชื่อถือไม่น้อย…ใช่ จนกระทั่งมาถึงตอนท้ายของคลิปที่พวกเขาตัดต่อภาพการทำงานของหลังคาแบบที่ไม่เนียนสุดๆ นั่นแหละ

Opening April 2017: The world’s first retractable sunroof at Emirates Stadium, inspired by @CitroenUK technology.https://t.co/c0FTWnC3vZ

— Arsenal (@Arsenal) April 1, 2016

    – ซลาตัน กับ บาเยิร์น
    ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ถือเป็นนักเตะที่เก่งมากๆ คนหนึ่งของโลกลูกหนังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทีมต่างๆ ก็อยากได้เขาไปร่วมทัพ ซึ่งเมื่อปี 2016 บาเยิร์น ก็ทำการประกาศว่า ซลาตัน ได้ไปอยู่พวกเขาแล้ว พร้อมทั้งติดแท็กแอคเคาท์ ทวิตเตอร์ ของดาวเตะชาวสวีดิชด้วย แถมยังโพสต์รูปคนที่ชูชุดแข่งที่มีการสกรีนคำว่า “ซลาตัน” เอาไว้อีกต่างหาก

    อย่างไรก็ตาม บาเยิร์น ที่ประกาศเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ทีมฟุตบอล แต่เป็นทีมบาสเกตบอลในเครือของ “เสือใต้” ส่วนคนที่ชูชุดแข่งตัวดังกล่าวคือ นิฮัด เดโดวิช นักบาสเกตบอลที่อยู่กับทีมยัดห่วงของ บาเยิร์น มาตั้งแต่ปี 2013 โดยเขาเป็นคนที่มักจะถูกล้อว่าดูคล้ายกับ ซลาตัน ในระดับหนึ่ง

    
    – เด็กเกร็ดบอล –

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.