Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

เดาใจ”มาโน่” นัดที่สองจัดทัพทีมชาติไทยออกทางไหนดี?

Football Sponsored
Football Sponsored

หลังจากเกมแรกเปิดหัวฟุตบอลคิงส์คัพได้ไม่สวย หลังเสมอในเวลา 90 นาที และไปแพ้จุดโทษให้กับทีมชาติมาเลเซีย ไป 3-5 (ในเวลาเสมอ 1-1) ทำให้ขุนพล “ช้างศึก” ต้องหล่นไปชิงอันดับ 3 กับทีมชาติตรินิแดดแอนด์ โตเบโก เรามาลองเดาใจ มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในนัดสองของศึกคิงส์คัพครั้งนี้ ตัวผู้เล่นที่จะลงสนามเป็นตัวจริงจะออกมาทางไหนดี

– จัดชุดใหญ่เต็มระบบ กู้หน้าเก็บชัย ในเมื่อเกมแรกได้ผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ เกมนัดที่สองจัดชุดใหญ่ลงสนามเหมือนเดิม เพื่ออย่างน้อยต้องเก็บชัยชนะเป็นขวัญและกำลังใจพร้อมทั้งเรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับมาให้ได้ ถ้ามีการจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามอีกครั้ง ตัวผู้เล่นคงไม่ได้แตกต่างไปจากนัดแรกมากสักเท่าไหร่ ขาดเพียง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ได้รับอาการบาดเจ็บต้องพักยาว 3 สัปดาห์ 

ส่วนผู้เล่นรายอื่น พร้อมเต็มกำลัง ทั้ง ธีราทร บุญมาทัน ที่นัดนี้จะได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ,นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ , ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ , พรรษา เหมวิบูลย์ และ สุภโชค สารชาติ เพื่อหวังคว้าชัยชนะในนัดนี้ให้ได้

– ให้โอกาสดาวรุ่ง เพื่อหาขุมกำลังใหม่เพื่ออนาคตถ้าจะมองถึงเรื่องของอนาคต เพื่อการต่อยอดในรายการต่อไปอย่าง เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022 ที่จะต้องแข่งในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า ในรายการนี้ตัวผู้เล่นหลักหลายคนจะไม่สามารถดึงมาร่วมทัพได้  ทำให้ในแมตช์ที่สองถือเป็นการให้โอกาสแข้งดาวรุ่งหรือแข้งหน้าใหม่เพื่อเป็นขุมกำลังที่เอาไว้ต่อยอดในอนาคต 

หากดูจากรายชื่อนักเตะชุดนี้ มีหลายรายที่น่าสนใจสำหรับการให้โอกาสลงสนาม ทั้ง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว , ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ , ธีรศักดิ์ เผยพิมาย , ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา , ศุภนันท์ บุรีรัตน์  และ เฉลิมศักดิ์ อักขี โดยถ้ามองถึงการต่อยอดในอนาคต 4 รายแรกคือแข้งเยาวชนที่มีโอกาสเป็นดาวดวงใหม่ของช้างศึกชุดใหญ่ ถ้าหากตัดเรื่องอันดับไปนัดที่สองนี้คงเป็นเวทีที่เหมาะสมที่สุดการลองให้โอกาสได้เล่นสำหรับนักเตะเหล่านี้

– RK14 –

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.