Categories: ฟุตบอล

รู้จัก แฟมิลี่สปอร์ตแมนตัวจริง ครอบครัว “ภูธิศาบดี”

ผู้พ่ออย่าง “บิ๊กชา” กษิดิษฐ์ ภูธิศาบดี ก่อนจะประสพความสำเร็จในหน้าที่การงานที่ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง เลขานุการ ประจำคณะกรรมาธิการ ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (สภาผู้แทนราษฎร ) รัฐสภา นั้น เขากล้าบอกได้เต็มปากเต็มคำ เลยว่า เป็นเพราะคำว่าการเป็นนักฟุตบอลทำให้ลูกชาวนายากจนอย่างเขา มีเช่นทุกวันนี้ได้

พื้นเพ ของ “บิ๊กชา” เป็นคนลูกหลานเมืองย่าโม จ.นครราชสีมา เกิดที่ อำเภอ ขามสะแกแสง เคยเป็นอดีตนักเตะเยาวชน 16 ปีทีมชาติไทย รุ่นเดียวกับ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แต่น่าเสียดายที่โดนตัดตัวโค้งสุดท้ายไม่ได้ร่วมทัพไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ยุคที่มี “น้าติ๊ก” สมชาติ ยิ้มศิริ เป็นกุนซือ

“บิ๊กชา” เรียนระดับชั้นประถมศึกษา ที่ ร.ร. บ้านขามศรีรัฐประชานุเคราะห์ มัธยมศึกษา ที่ ร.ร. ขามสะแกแสง ก่อนใช้ความสามารถด้านฟุตบอล มาได้เรียนที่ สถาบันดังอย่าง ร.ร.ปทุมคงคา

จากนั้น เรียน ปวช.ที่ รัตนพาณิชยการ จบ ปริญญาตรี,ปริญญาโท (รัฐประศาสนศาสตร์) ที่ ม.กรุงเทพธนบุรี สมัยเรียนปทุมคงคา เคยเล่นรายการโค้กคัพ ,ตอนเรียน รัตนพาณิชยการ เล่นฟุตบอลอาชีวะศึกษาชิงแชมป์ประเทศไทย ,ยูธคัพ ,เล่นธ.กรุงเทพ ระดับถ้วยพระราชทาน ข.

“บิ๊กชา” ที่ปัจจุบัน เป็นเจ้าของ สโมสร ชาเม่ ยูไนเต็ด ที่มี อะคาเดมี่ลูกหนัง เปิดสอนฟุตบอลโดยทีมงานโค้ชมากฝีมือหลายราย ที่ ถนนสุวินทวงศ์ นั้นมี บุตรชาย 2 คนที่ได้เลือดนักกีฬาจากผู้เป็นพ่อไปเต็มๆ รายแรกคือ “บอล” ภูวิ ภูธิศาบดี อดีตนักเตะยช. 17 ปีทีมชาติไทย ที่เคยได้รับโอกาสไปฝึกลูกหนังกับ เลสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว โดยเคยร่วมทัพทีม หนองบัวฯ ,พีที ปะจวบฯ มาแล้วด้วย ปัจจุบัน”บอล” เลิกเล่นแล้ว เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ช่วยงานคุณพ่อที่สนาม ชาเม่ ยูไนเต็ด โดยตลอด

อีกรายคือ “บอย” วิภู ภูธิศาบดี นักสนุกเกอร์ ฝีมือดีอีกรายในวงการสอยคิวของเมืองไทย

แว่วๆมาว่า “บิ๊กชา” ที่ปัจจุบัน มีนโยบายปั้นนักเตะเพื่อความเป็นเลิศ เพื่อทำธุรกิจลูกหนัง ผ่าน ชาเม่ ยูไนเต็ด สมกับที่ตัวเขาเองบอกมาตลอดว่า เขาทำฟุตบอลแบบคนฟุตบอลเพราะเคยเป็นนักเตะมาก่อน นั้นกำลังจะมีเป้าหมายใหญ่ ในการทำงานการเมืองอีกด้วย โปรดรอติดตาม

-เรื่องโดย “สิงห์นก Hk vp 9”-

Tags: esportHearthstoneกีฬาถ่ายทอดผลการแข่งขันสดอีสปอร์ตแข่งขัน

2 ปี ago

ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง