บอลเดินสายโหด “เวียดนาม-ไทย” ไล่หวดกันยกทีม เดือดเลือดพล่านลามมาอีกสนาม (คลิป)
วันที่ 4 กันยายน 2565 เกิดเหตุการณ์เดือดในการแข่งขันฟุตบอลเดินสาย รายการกากหมา โอเพ่นคัพ ครั้งที่ 2 ชิงรางวัลชนะเลิศ 100,000 บาท รอบรอบแบ่งกลุ่ม ระหว่าง ทีม Giavite A(เวียดนาม) พบ จุ๊กกุบุ๊ (ไทย) ที่สนามฟุตบอล PROSPER บางบอน 5 ซึ่งนักเตะทั้งสองทีมไล่ชกกัน ลามไปถึงสนามข้างๆที่กำลังแข่งขัน แต่สุดท้ายเหตุการณ์จบลงด้วยดี
จุดเริ่มต้นเหตุการณ์เดือดมาจากนักเตะทีมจุ๊กกุบุ๊ ไปเข้าบอลอย่างหนักใส่ นักเตะ Giavite A หมายเลข 37 จนล้มลง ก่อนจะลุกขึ้นกระโดดชกไปที่ผู้เล่น Giavite A สุดท้ายนักเตะทั้ง 2 ทีมไล่ตะลุมบอนกันจนลามไปถึงสนามข้างๆที่กำลังแข่งอยู่
โดยผู้บรรยายเกมนี้ต่างพยายามห้ามปรามนักเตะของแต่ละทีมให้ใจเย็น สุดท้ายก็กลับมาแข่งขันกันต่อจนจบเกมเป็นทาง Giavite A เอาชนะไป 2-0
อย่างไรก็ตามหลังจบเกม เพจเฟซบุ๊กของทีม GIA VIỆT ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า เล่นกันขนาดนี้เลย โชคดีที่ Bi Long ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.