Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“โค้ชเตี้ย” แจงเหตุไม่จับมือ “อิชิอิ” เพราะเราไม่ใช่เพื่อนกัน

Football Sponsored
Football Sponsored

ลุกเป็นไฟ! “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ ออกมาเปิดใจเหตุไม่ยอมจับมือ มาซาทาดะ อิชิอิ พร้อมจัดหนักจวกยับ ปมทิ้งปราการ ซบ บุรีรัมย์ , ถ่วงเวลาผู้เล่น และอีกอย่าง เขาก็แค่โค้ชฟุตบอลไม่ใช่เพื่อนผม

ความเคลื่อนไหวหลังจบเกมศึกฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ในเกมระหว่าง “ฉลาชล” ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านพ่าย “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-3 หลังเกมมีประเด็นดราม่าหลังจากที่ “อิชิอิ” ออกมาบอกว่าข้องใจที่ โค้ช ชลบุรี ไม่จับมือ ล่าสุด “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ ได้ออกมาตอบประเด็นดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีใจความดังนี้

“โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ เผยเหตุไม่จับมือ อิชิอิ ไว้ว่า “ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมโค้ชของบุรีรัมย์ถึงออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ เพราะจบเกมผมเองก็จับมือกับโค้ชอีกฝั่งตลอดครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมก็จับมือกับเขาตามมารยาทนะ แต่อาจจะไม่เหมือนการจับมือที่แน่น และเขาเองก็ยังมาตบไหล่ผมอยู่เลย”

“และเหตุที่จับไม่แน่นเป็นเพราะ พฤติกรรมของเขาในระหว่างเกมในช่วงที่นักเตะของเขาเหลือ 10 คนและเรากำลังเร่งเอาประตูคืน จังหวะที่นักเตะชลบุรีกำลังจะทุ่มบอล เขาคงลืมตัว หวังชัยชนะมากเกินไปจนเอาขาไปบล็อกลูกบอล เพื่อไม่ให้นักเตะชลบุรีเล่นเร็ว”

“ผมทราบนะว่าเขาเองก็ต้องการชัยชนะ แต่การพยายามสกัดกั้นผู้เล่นชลบุรีแบบนี้ ผมว่าเขาเองก็ทำไม่ถูกเหมือนกัน อีกหนึ่งประเด็นที่อยู่ในใจผม การที่เขาทิ้งทีมสมุทรปราการมาซบบุรีรัมย์ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สมุทรปราการตกชั้น”

“ถึงขั้นทำให้คุณเจี๊ยบ ศิริมา พานิชชีวะ เจ้าของทีมสมุทรปราการซิตี้ หนึ่งในคนที่คอยช่วยสนับสนุนวงการฟุตบอลมาตลอด เกือบจะคิดยุติบทบาทของเขา ซึ่งเป็นเรื่องเสียหายต่อวงการฟุตบอลอย่างมาก สำหรับคนอื่นผมไม่รู้ว่าใครจะคิดยังไง แต่สำหรับผม โค้ชคนนี้เป็นแค่โค้ชฟุตบอล ไม่ใช่เพื่อนผม จบนะ” “โค้ชเตี้ย” กล่าวปิดท้าย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

Football Sponsored