Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“น้าฉ่วย” ขอคุมทัพช้างศึกU23 เองมั่นใจทำให้เก่งขึ้นกว่าเดิม

Football Sponsored
Football Sponsored

ไม่มีใครทำผมรับเอง! “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม โค้ชจอมเก๋าประกาศของรับงานคุมทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เอง มั่นใจจะทำให้นักเตะชุดนี้เก่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

จากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ​ ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่งพันธ์ม่วง นายกสมาคมฯ ประกาศยังไม่แต่งตั้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เนื่องจากในปีนี้ยังไม่มีโปรแกรมแข่งขัน แม้ปีหน้าจะมีโปรแกรมสำคัญอย่าง ฟุตบอลชายซีเกมส์ , ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกนั้น

กรณีดังกล่าวเป็นที่วิจารณ์ในโลกโซเชียลว่า อาจจะทำให้ผลงานของทีมชาติไทยชุดนี้ออกมาไม่ดี และขาดการพัฒนาที่ถูกต้องนั้นล่าสุดทาง “น้าฉ่วย”​ สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือมากประสบการณ์ของวงการฟุตบอลไทย ที่เคยคุมทีมชาติไทย ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ได้ออกมาประกาศของรับหน้าที่คุมทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปีเอง

 “ผมเคยให้สัมภาษณ์ทุกครั้งว่าอยากทำทีมชาติไทย และผมมั่นใจว่าผมสามารถทำได้ แต่สมาคมฟุตบอลฯ​ไม่เคยสนใจ ส่วนตัวผมมั่นใจว่าผมทำได้โดยเฉพาะการคุมทีมชาติไทยชุด 19 ปี หรือ 23 ปี ซึ่งผมคิดว่าทั้งสองชุด ต้องมีทิศทางในการทำงานเป็นทางเดียวกัน”

กุนซือจอมเก๋าวัย 68 ปี กล่าวต่อว่า “ผมมีวิธีการสอนนักเตะเหล่านี้ ผมรู้ว่าต้องทำยังไงให้นักเตะรุ่นนี้เก่งขึ้น เมื่อก่อนผมจำวิธีการคุมบอลเยาวชนมาจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งก่อนหน้านั้นผมสงสัยมาตลอดว่าทำไมเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ถึงเก่ง แล้วก็มาค้นพบว่า ทำฟุตบอลเยาวชนต้องมีวินัย และความฟิตเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งถือเป็นหลักพื้นฐาน”

“ที่สำคัญเราต้องหา ผู้จัดการทีมที่ชอบฟุตบอลเข้ามาทำงาน เพราะเขาจะมาช่วยเหลือทีมในด้านต่างได้ ตอนนี้ผมยังว่างงานอยู่ และขอเสนอตัวเป็นทางเลือกให้สมาคมฟุตบอลฯ เลือกผมไปคุมทีมชุดนี้ ผมมั่นใจว่าทำให้นักเตะชุดนี้มีผลงานดีขึ้นแน่นอน” น้าฉ่วย กล่าว

สำหรับ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม หลังจากแยกทางกับ ตราด เอฟซี ก็ว่างงาน โดยผลงานระดับทีมชาติ เคยคุมทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี คว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียน เมื่อปี 2011-12 ชุดนั้นมีนักเตะชื่อดังในยุคปัจจุบันคือ ชนาธิป สรงกระสินธ์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ซึ่งได้สิทธิ์เข้าไปเล่นฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย แต่ “น้าฉ่วย” โดนปลดจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยชุดนั้นก่อนไปชิงแชมป์เอเชีย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.