Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

ชลบุรีไฟเขียว “โค้ชเตี้ย” คุมซีซั่นหน้า คงนโยบายเน้นดาวรุ่งลงบู๊

Football Sponsored
Football Sponsored

“ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ยันซีซั่นหน้ายังใช้บริการ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ เป็นกุนซือใหญ่คุมทัพให้ต่อไป “บิ๊กบอล” ศศิศ สิงโตทองผจก.ทีม ยอมรับหากพูดถึงผลงานถือว่าล้มเหลวแต่ไม่ถือเป็นความผิดของ “โค้ชเตี้ย” แถมชมกล้าให้โอกาสดาวรุ่งสายเลือดใหม่ ย้ำชัดนโยบายฤดูกาลหน้ายังให้โอกาสดาวรุ่งเพื่อวางรากฐานระยะยาวสู่อนาคต ไม่ใช้แข้งไทยบิ๊กเนม เน้นตัวนอกฝีเท้าดีจริงเสริมทัพ

    “บิ๊กบอล” ศศิศ สิงโตทอง ผจก.ทีม ชลบุรี เอฟซี ออกมายืนยันแล้วว่า ไทยลีกฤดูกาล 2021 หรือไทยลีกครั้งที่ 25 นั้นทีม “ฉลามชล” จะยังคงใช้บริการ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ คุมทัพต่อไปหลังได้หารือกับบอร์ดบริหารทีมเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมกับตัว “โค้ชเตี้ย” ด้วย  

    “บิ๊กบอล” กล่าวว่า “ผมกับบอร์ดบริหารทีมรวมถึงคุณอรรณนพ สิงโตทอง ได้หารือกับ “โค้ชเตี้ย” และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนก่อนจะตัดสินใจให้ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ คุมทัพ ชลบุรี เอฟซี ต่อในฤดูกาลหน้า ยอมรับว่าหากมองที่ผลงานแล้วถือว่าเราล้มเหลวเพราะต้องมาดิ้นรนหนีตายกว่าจะเอาตัวรอดได้ก็ต้องลุ้นถึงนัดรองสุดท้าย ยังดีที่เลกแรกเราเก็บแต้มมาได้พอสมควร”

    “บอร์ดบริหารทีมทุกคนไม่ถือว่าเป็นความผิดของ “โค้ชเตี้ย” ที่เพิ่งเข้ามารับงานคุมทีมเป็นฤดูกาลแรก ในซีซั่น 2020 ขณะเดียวกันต้องชมเชยด้วยซ้ำในการกล้าตัดสินใจที่จะผลักดันให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งของทีมเราได้ลงเล่นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพราะนี่คือแนวทางในการพัฒนาที่ถูกต้องปั้นนักเตะใช้เองอันจะทำให้ทีมแข็งแกร่งในอนาคตอย่างยั่งยืนเหมือนที่อดีตเราผลิตนักเตะฝีเท้าดีป้อนสู่ทีมชาติและไปอยู่กับทีมอื่นๆก็หลายราย”

    “เรื่องที่เราจะทุ่มเม็ดเงินเพื่อจ้างนักเตะไทยราคาแพงๆมาอยู่กับทีมไม่มีแน่นอนแต่จะเน้นโฟกัสใช้งบประมาณที่มีไปที่การหานักเตะต่างชาติฝีเท้าดีที่เป็นทีเด็ดจริงๆมาร่วมทัพเพราะไทยลีกยุคนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าฟุตบอลลีกไทยนั้น นักเตะต่างชาติที่มีคุณภาพสามารถกำหนดชะตากรรมของทีมได้อย่างดีเยี่ยมหากได้ของดีๆมาใช้งานโดยเราจะพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษ”

    “ส่วนตัวต่างชาติที่มีอยู่ในทีมขณะนี้ ใครจะอยู่หรือไปจากทีมเราจะคุยกันอีกครั้งหลังเสร็จภารกิจ ช้าง เอฟเอคัพ ก่อน ซึ่ง รอบ 8 ทีมเราจะเปิดบ้านพบกับ ตราดฯ วันที่ 3 เม.ย.2564 “

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.