Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“เนวิน” กร้าว “บุรีรัมย์” ชนะรวด 3 นัดสุดท้าย รับเลกแรกสุดสาหัส

Football Sponsored
Football Sponsored


การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 ดำเนินมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย แม้ตำแหน่งแชมป์จะตกเป็นของสโมสร “กระต่ายแก้ว” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ยังไร้พ่ายแบบแต้มขาดลอยไปแล้ว

ทว่ายังคงต้องลุ้นตำแหน่งรองแชมป์ ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี (28 นัด 55 คะแนน) อันดับ 2 กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (27 นัด 54 คะแนน) อันดับ 3

โดย เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” กล่าวผ่านนิตยสาร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แมตช์เดย์ 2020 ฉบับที่ 13 ว่า 3 นัดที่เหลือของเกมลีก จะต้องคว้าชัยให้ได้ทั้ง 3 นัด พร้อมยอมรับว่าช่วงเลกแรกนั้นสุดแสนจะสาหัสกับสถานการณ์ของทีมว่า
เอาหัวใจมาสู้ด้วยกัน นับถอยหลัง 3 นัดสุดท้ายโชคดีมากที่ 3 นัดสุดท้าย เราได้เล่นใน ช้างอารีนา ทั้งหมด เป็นโอกาสดีที่จะได้ เก็บ 9 แต้ม ส่งท้ายปิดฤดูกาลนี้ ปีที่สุดแสนจะสาหัสของไทยลีก สาหัส ทั้ง แฟนบอล นักฟุตบอล และ ผู้บริหารทีม ต้องยอมรับว่า นี่เป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวัง อีกครั้งหนึ่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คนที่ต้องรับผิดชอบ ก็คือ ผม ในฐานะประธานสโสร คนที่เสียใจที่สุด ก็คือ ผม ในฐานะประธานสโมสร คนที่ต้องทำงานให้หนักขึ้น และ นำบทเรียนทุกๆ วัน ตลอดทั้งปี และ สองปีที่ผ่านมา มาปรับปรุง แก้ไขเพื่อที่จะไม่ให้แฟนบุรีรัมย์​ ยูไนเต็ด ต้องผิดหวัง ต้องเสียใจ ในปีหน้า และ ปีถัดไปก็คือ ผม ในฐานะประธานสโมสร เช่นกัน

ในช่วงใกล้จบฤดูกาลแบบนี้ ทุกแต้มในสนาม สำคัญสำหรับทุกทีม ทุกทีมอยากเป็นผู้ชนะ และเก็บ 3 แต้มให้ได้ ในทุกๆ นัด ที่ลงสนาม เพราะทุกแต้มที่ได้ และ ทุกแต้มที่พลาด มันหมายถึงอนาคตของทีม และ มันมีความหมายต่อหัวใจของแฟนๆ พวกเราผิดพลาดมามาก เมื่อช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลนี้ ทำให้เราต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้น

แต่ครึ่งหลัง หรือ เลก 2 เรากลับมาทำงานผลงานได้ตามเป้าหมาย แม้จะไม่ได้ดังใจ ทุกนัด แต่ก็ทำให้เรา กลับสู่เส้นทางของเราได้ การที่เราสู้ยิบตา สู้สุดหัวใจ สู้จนก้าวขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ อาจจะไม่ถูกใจ ถูกตา ใครหลายคน ในบางนัด บางสนาม พวกเราต้องหนักแน่น ต้องไม่หวั่นไหว และต้องไม่นำมากดดันตัวเราเอง

ผมบอกนักฟุตบอลทุกคน ว่าพวกเรามีหน้าที่ สร้างผลการแข่งขันที่ดีที่สุดในสนามทุกๆ นัด ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าเราทำเต็มที่ สู้สุดหัวใจ สู้เพื่อความสุขของแฟนๆ ทุกคนไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร แฟนบุรีรัมย์​ ยูไนเต็ด จะยืนอยู่ข้างเรา จะยืนปรบมือให้กำลังใจ ทุกครั้งที่เราเดินลงสนาม และเดินออกจากสนาม นัดแรกของ 3 เกมส่งท้ายฤดูกาลนี้ แม้เราจะเป็นเจ้าบ้าน แต่การเปิดบ้านรับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในช่วงนี้ เป็นงานที่หนัก และเป็นงานที่ยากกว่านัดที่เราไปเยือนอย่างแน่นอน เราต้องสู้ด้วยพลัง และ กำลังใจ
ของแฟนๆ ที่อยู่ในสนาม และ แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นผู้สร้างผลงานที่ดีที่สุดในสนาม และเป็นผู้คว้าชัยชนะ เก็บ 3 แต้มในบ้านให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ มาช่วยกัน ส่งเสียงให้กำลังใจ มาสู้ด้วยกัน มาเชียร์ด้วยกันเพราะเราคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 แต้ม ต้องทำได้ !!!!!!

สำหรับ 3 นัดสุดท้ายของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 ประกอบด้วย
– บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เวลา 19.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2564
– บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ พีที ประจวบ เอฟซี เวลา 19.00 น. วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2564
– บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ โปลิศ เทโร เอฟซี เวลา 18.00 น. วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564

เอาหัวใจมาสู้ด้วยกัน

นับถอยหลัง 3 นัดสุดท้าย
โชคดีมากที่ 3 นัดสุดท้าย
เราได้เล่นใน ช้างอารีนา…โพสต์โดย BURIRAM UNITED เมื่อ วันพุธที่ 17 มีนาคม 2021

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.