Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

ปู่รอยว่าอย่างไรหลังซาฮาไม่ยอมคุกเข่าต้านเหยียดผิวก่อนเกม

Football Sponsored
Football Sponsored

รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ ออกมาแสดงท่าทีหลังลูกทีมตัวเก่งอย่างวิลฟรีด ซาฮา เป็นคนเดียวจากทั้งสองทีมที่ไม่ยอมคุกเข่าก่อนเกมพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

             รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ ยกย่องคำแถลงที่ออกโดยวิลฟรีด ซาฮา ซึ่งอธิบายว่าทำไมกองหน้าของคริสตัล พาเลซ ถึงไม่คุกเข่าก่อนเกมพรีเมียร์ ลีกของทัพดิ อีเกิ้ลส์ กับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เมื่อคืนที่ผ่านมา (เสาร์ที่ 13 มีนาคม 2564)

            กองหน้าวัย 28 เลือกที่จะไม่คุกเข่าพร้อมเพื่อนร่วมทีมพาเลซที่เหลือ โดยนักฟุตบอลทั่วประเทศเลือกใช้วิธีการคุกเข่าก่อนเกมการแข่งขันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการเหยียดผิว แต่ซาฮากลับรู้สึกว่า การกระทำดังกล่าวนั้นไม่มีความหมาย ดาวเตะทีมชาติไอวอรี โคสต์ ออกแถลงการณ์ก่อนเกมเพื่ออธิบายว่า เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องทำอะไรมากกว่านี้เพื่อป้องกันการเหยียดผิว ข้อเสนอแนะของเขาก็รวมถึงการให้การศึกษาที่ดีขึ้นและให้บริษัทที่ดำเนินการทางด้านโซเชียล มีเดีย ดำเนินการอย่างเข้มแข็งกว่านี้ ทั้งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เด็กชายอายุ 12 ปียังถูกจับกุมโดยตำรวจเวสต์ มิดแลนด์ ในข้อหาส่งข้อความเหยียดผิวถึงซาฮาอีกด้วย

             “ผมอ่านคำแถลงของเขาก่อนเกมและผมคิดว่ามีการเตรียมมาดีมากและชัดเจนมาก เป็นคำกล่าวที่พวกเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า (ความรู้สึกดังกล่าวนั้น) คือสิ่งที่เราพยายามก้าวข้าม เราพยายามก้าวข้ามมันด้วยการคุกเข่า แต่ตอนนี้วิลฟ์ไม่ใช่คนเดียวที่คิดว่าการคุกเข่าอาจจะกลายเป็นพิธีกรรมมากกว่าการสือข้อความครั้งสำคัญ”

             “เขาเลือกที่จะทำขั้นตอนนี้ซึ่งจะพาเขาออกจากกลุ่มคนที่เขาคุกเข่ากัน ถ้าคุณต้องการและเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้กล่าวถ้อยแถลงอย่างที่เขาทำเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากขนาดไหนและโชคร้ายที่มันยังคงเกิดขึ้นโดยเฉพาะในแง่ของการละเมิดและการเหยียดเชื้อชาติแล้วล่ะก็ เราทุกคนก็หนุนหลังเขา”

             “เขาเคลียร์กับผู้เล่นที่เหลือ และผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ตัดสินใจว่าเราจะคุกเข่าอย่างนี้ต่อไปเพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘เราก็ใส่ใจเหมือนกัน แต่เราเคารพเป็นอย่างมากที่คุณต้องการก้าวไปอีกขั้นในสายตาของคุณ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะทำเช่นนั้นตราบใดที่คุณต้องยอมรับว่าคำถามจะเกิดขึ้นกับคุณและคุณจะต้องยืนเป็นแนวหน้าตอบคำถามพวกเขา’”

             แนวรุกของ คริสตัล พาเลซ ทำตามคำพูดที่เคยกล่าวไว้ว่า ตัวเองจะไม่ทำการคุกเข่าแต่จะเปลี่ยนมาเป็นยืนสูงตระหง่านเพื่อต่อต้านการเหยียดผิว ซึ่งเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ ก่อนเกมที่่ ‘ปราสาทเรือนแก้ว’ เปิดบ้านเฉือน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นนักเตะคนแรกใน พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่ไม่คุกเข่าก่อนเกม นับตั้งแต่มีการรณรงค์ในเรื่องนี้

  • ทำตามคำพูด! ซาฮา ยืนตระหง่านแทนคุกเข่าต้านเหยียดผิว
  • ซาฮา กร้าวต้องการย้ายออกจาก พาเลซ เพื่อคว้าแชมป์
  • ซาฮาเผยสาเหตุหวิดฟาดปากมอร์ริสันเมื่อ 7 ปีก่อน (มีคลิป)

             “การตัดสินใจของผมที่จะยืนก่อนคิกออฟเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะมาสองสามสัปดาห์แล้ว” ซาฮาแถลง “ไม่มีการตัดสินใจที่ถูกหรือผิด แต่สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าการคุกเข่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมก่อนการแข่งขันและในขณะนี้มันไม่สำคัญว่าเราจะคุกเข่าหรือจะยืนเพราะพวกเราบางคนยังคงโดนล่วงละเมิดอยู่ดี” “ผมรู้ว่ามีงานอีกมากมายที่ต้องทำอยู่เบื้องหลังในพรีเมียร์ ลีกและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อทำการเปลี่ยนแปลง และผมเคารพตรงนั้นและทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ผมยังเคารพเพื่อนร่วมทีมและผู้เล่นในสโมสรอื่นๆ ที่ยังคงคุกเข่าอย่างเต็มที่” “ในด้านสังคม ผมรู้สึกว่าเราควรส่งเสริมให้มีการศึกษาที่ดีขึ้นในโรงเรียน ส่วนบริษัท โซเชียล มีเดีย ควรดำเนินการอย่างเข้มงวดมากขึ้นกับผู้ที่ล่วงละเมิดผู้อื่นทางออนไลน์ไม่ใช่เฉพาะแค่นักฟุตบอล” “ตอนนี้ผมแค่ต้องการโฟกัสที่ฟุตบอลและสนุกกับการกลับมาเล่นในสนาม ผมจะยืนตรงต่อไปครับ”

            นอกจากซาฮาที่เป็นผู้เล่นพรีเมียร์ ลีก คนแรกที่ไม่คุกเข่าก่อนเกมแล้ว ยังมีสโมสรในแชมเปี้ยนชิพอย่างดาร์บี้, บอร์นมัธ และเบรนท์ฟอร์ด ที่ตัดสินใจไม่ทำพิธีการดังกล่าวเช่นกัน

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.