Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

“มาริโอ” ชี้ โฟกัสแค่เกมนี้ขอย้ำแค้น “บุรีรัมย์” อีกนัด

Football Sponsored
Football Sponsored

มาริโอ ยูรอฟสกี้ กุนซือใหญ่ “กิเลนผยอง”  เผยขอโฟกัสแค่เกมนี้ ไม่มี แดร์เลย์ จะติดโทษแบน แต่ยังหวังย้ำแค้น “ปราสาทสายฟ้า” ให้ได้อีกเกม 

มาริโอ ยูรอฟสกี้ ผู้ฝึกสอนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดเผยถึงความพร้อมของทีม ก่อนทำศึกบิ๊กแมตช์   เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้ายพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ว่า  ก่อนอื่นผมขอยินดีกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก่อน ที่คว้าแชมป์ลีกได้ พวกเขาเล่นฟุตบอลได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ และสมควรเป็นแชมป์”

“เกมที่แล้วผมอาจตัดสินใจพลาดบางจุดของแท็คติก ซึ่งผมขอรับผิดชอบในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ ผมโฟกัสอยู่กับเกมที่จะถึงเท่านั้น นัดนี้ แดร์เลย์ จะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบโควต้า และอาจมีปัญหาอื่นอีกเล็กน้อย แต่ผมยังไม่สามารถบอกได้ในวันนี้ครับ”

  • “มาริโอ” เชื่อลูกทีมไม่เสียขวัญ แม้แพ้ เทโรฯ ก่อนดวล บุรีรัมย์
  • “กามา” กร้าว เกม “บุรีรัมย์” ดวล “กิเลน” ต้อง 3 แต้มเท่านั้น
  • คาบ้าน ! กิเลนไม่ผยอง โดน เทโรฯ บุกอัดถึงถิ่น 1-2

“ตอนนี้เราไม่ได้สนใจในตารางคะแนนมากนัก เรื่องนี้ควรต้องไปถามบุรีรัมย์มากกว่า ทีมของเราพยายามสนุกกับการเล่น ส่วนพวกเขาน่าจะเป็นฝ่ายที่กดดัน พวกเขามีคะแนนห่างเราแค่ 7 คะแนน ผมมองว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ และผมคิดว่าเราจะสามารถชนะพวกเขา เพื่อลดช่องว่างในตารางคะแนน”

“นี่เป็นเกมที่ผมไม่สามารถเดาได้ว่าผลแข่งจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เราหวัง 3 คะแนนอยู่แล้ว สำหรับกาม่า เขาเป็นกุนซือที่ดี พาทีมเก็บชัยมาต่อเนื่อง แต่อย่างที่บอก ผมหวังว่าจะชนะพวกเขาได้ในเกมนี้ ส่วน ปิยพล  ผมให้ความเคารพเขามาก รวมถึงบุรีรัมย์ แต่ผมขอโฟกัสอยู่กับนักเตะในทีมของผม และเกมนัดนี้ครับ ไม่ใช่นักเตะของคู่แข่ง”

“ผมรู้ดีว่าตอนนี้แฟนบอลเข้ามาได้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีการเพิ่มจำนวนแฟนในเกมนี้ไหม แต่นี่เป็นหนึ่งในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลไทย ก็หวังว่าจะได้เจอแฟนบอลเต็มความจุตามที่กำหนดในวันเสาร์ครับ” มาริโอ กล่าวทิ้งท้าย  

สำหรับการแข่งขันฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2020/21”  นัดที่ 25 ของฤดูกาล ระหว่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง จะเปิดบ้านพบ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง  จะฟาดแข้งกันในวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 2564 ที่เอสซีจี สเตเดียม เวลา 17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง MCOT HD และ AIS Play
 

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.