บีจี ลุ้นได้จัดเอซีแอลในบ้าน ได้เปรียบอื้อซ่า
เดินหน้าคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองไทยได้อย่างยิ่งใหญ่สำหรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของสโมสรแห่งย่านปทุมธานี โดยนอกเหนือจากเดินหน้าคว้าแชมป์แล้ว บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังเดินหน้าคว้าตั๋วไปลุยศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มได้ 2 ฤดูกาลติดต่อกันในปี 2021-22 ซึ่งล่าสุดการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มถ้วยเอเชียในปี 2021 จะมีการประกาศเจ้าภาพกันในช่วงวันที่ 15 มี.ค.64 นี้
ทางด้านของ “เสี่ยเหน่ง”ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้บริหารของสโมสรบีจี ปทุมยู ไนเต็ด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการฟุตบอลไทยวาไรตี้ ทางช่อง SIAMSPORT YOUTUBE หลังจบเกมว่า ตอนนี้โอกาสประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้วที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทีมจะได้เปรียบในเรื่องของสภาพอากาศ การเล่นในเมืองไทยในช่วงเดือน เม.ย. อากาศจะค่อนข้างร้อนทีมที่อยู่ในกลุ่มจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ ตอนนี้เหลือเพียงเอเอฟซีคอนเฟิร์มกับการเป็นเจ้าภาพ หากเราได้เล่นในบ้านทั้งเกมเหย้า-เยือน ในฐานะเจ้าภาพรอบนี้โอกาสเข้ารอบก็ได้ลุ้นเช่นกัน ส่วนคุณภาพทีมบีจีที่จะเล่นถ้วยเอเชียเราได้เซตทีมในเลกที่สองไว้สำหรับถ้วยนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้เล่นต่างชาติ
สำหรับศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 เอเอฟซี ให้ชาติต่างๆเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม โดยในโซนเอเชียตะวันออก ที่สโมสรจากไทยร่วมทำการแข่งขัน มี 4 ชาติ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย,ไทย, ฮ่องกง และ สิงคโปร์ ก่อนหน้านี้ ฮ่องกง และ สิงคโปร์ ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพในถ้วยเอเอฟซี คัพ 2021 ไปแล้ว 1 รายการ ถ้วยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 จะมีการประกาศเจ้าภาพกันอีกครั้ง
ในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย รายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก อยู่กลุ่ม เอฟ ร่วมกับ อุลซาน ฮุนได(เกาหลีใต้),เวียดเทล(เวียดนาม)และ ทีมเพลย์ออฟ(เซียงไฮ้ เอสไอพีจี(จีน) พบ บริสเบรนด์(ออสเตรเลีย)-คายา (ฟิลิปปินส์) รอบแบ่งกลุ่มจะแข่งขันช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.64
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.