คาวานี่เผยชื่อกองหลังแกร่งสุดที่เคยดวลไม่ได้อยู่พรีเมียร์ฯ – สยามกีฬา
เอดินสัน คาวานี่ เผยชื่อกองหลังแกร่งสุดที่เคยเผชิญหน้า พร้อมรับอยากเล่นในทีมเดียวกับ เอริก คันโตน่า
เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าประสบการณ์สูงทีมชาติอุรุกวัย ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ปราการหลังจอมเก๋าทีมชาติอิตาลี ของ ยูเวนตุส เป็นกองหลังแข็งแกร่งสุดที่เคยดวลด้วย
คาวานี่ วัย 34 ปี เผยผ่าน เอ็มยูทีวี สถานีโทรทัศน์ของสโมสร “ปีศาจแดง” ว่า “คุณคงสามารถนึกได้ว่า ผมเคยเล่นกับคู่แข่งที่แตกต่างกันมากมาย และหลายคนก็เป็นคู่ต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก”
“อย่างไรก็ตาม ผมเคยพูดมาเสมอและนานแล้วว่า กองหลังที่เล่นด้วยยากสุดเท่าที่ผมเคยดวลมาคือ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เราเคยเจอกันหลายเกม เราต่อสู้กันทั่วทั้งสนาม ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่า เขาคือกองหลังแกร่งสุดที่ผมเคยเผชิญหน้า” คาวานี่ กล่าว
พร้อมกันนี้ ดาวเตะอุรุกวัย ยังยกให้ เอริก คันโตน่า ตำนานกองหน้า “ปีศาจแดง” เป็นหนึ่งในนักเตะที่ตัวเองอยากเล่นด้วยในทีมเดียวกัน
“คันโตน่า เป็นนักเตะที่ผมอยากเล่นด้วย นั่นเป็นเพราะแคแรกเตอร์ของเขา และแนวทางที่เขาใช้ชีวิตกับเกมฟุตบอลของเขา รวมทั้งอย่างที่ผมเคยบอกถึงเรื่องบุคลิกของเขาในสนาม” คาวานี่ ทิ้งท้าย
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.