Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ,เอเชีย “ปินโต้”อดีตจอมหนึบปลาทูพาทีมทะลุชิงบอลชายหาดโลก – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

ศึกฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก ที่ประเทศรัสเซีย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่น สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ เซเนกัล 5-2 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ รัสเซีย ที่เอาชนะจุดโทษสวิตเซอร์แลนด์ 5-4(5-5)

    ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นทีมแรกของทวีปเอเชียที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยผ่านเข้ารอบรองฯมาแล้วในปี 2000,2005 และ 2019  แต่ทำได้ดีสุดเพียงแค่อันดับ 4  ครั้งนี้ 2021 นอกจากสร้างประวัติศาสตร์ให้ญี่ปุ่นแล้วยังเป็นการประวัติศาสตร์ให้ทวีปเอเชียถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดในเวทีระดับโลกของทีมจากเอเชีย ก่อนหน้านี้ อิหร่าน เคยคว้าอันดับ 3 ในปี 2017

    ผลงานของทีมชาติเอเชียในศึกฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกตั้งแต่การจัดการแข่งขันครั้งแรกอย่างเป็นทางการในปี 1995 มี 3 ทีมที่ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ ประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น ปี 2000(4),2005(4),2019(4),2021 , ไทย  ปี 2002(4) และ อิหร่าน ปี 2017 (3)  

    สิ่งน่าสนใจนอกจากเรื่องของการสร้างประวัคิศาสตร์ให้ทวีปเอเชียแล้ว ในทีมฟุตบอลชายหาดชุดนี้ของญี่ปุ่น มี โนกุชิ ปินโต้ อดีตผู้รักษาประตูตำนาน “ปลาทูคะนอง”สมุทรสงคราม เอฟซี ร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานสต๊าฟที่พาทีมสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่

    สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก 2021 จะมีขึ้นในวันที่ 29 ส.ค.64 รัสเซีย พบ ญี่ปุ่น เวลา 23.30 น.(ตามเวลาประเทศไทย)

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.