Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

‘ส.บอลไทย’ เตรียมย้ายที่ทำการ หลัง กกท.ขอคืนพื้นที่ผุด ‘สปอร์ต ปาร์ค

Football Sponsored
Football Sponsored

‘ส.บอลไทย’ เตรียมย้ายที่ทำการ หลัง กกท.ขอคืนพื้นที่ผุด ‘สปอร์ต ปาร์ค’

ตามที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีโครงการ “สมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค” บริเวณประตูด้านหน้าสนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ใช้พื้นที่ของ กกท. บริเวณหน้าราชมังคลากีฬาสถาน ข้างสนามเทนนิส เลขที่ 286 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก มีพื้นที่ใช้สอย 860 ตารางเมตร

โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ปรับปรุง และเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ใช้งบประมาณราว 40 ล้านบาท แต่จากการที่ กกท. เตรียมทำโครงการ “สมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค” จึงจำเป็นต้องใช้พื้นที่ดังกล่าว ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เตรียมย้ายที่ทำการแห่งใหม่ ไปอยู่บริเวณประตูด้านหลังราชมังคลากีฬาสถาน

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ทาง กกท. มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ปัจจุบันของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ปรับปรุงเป็นทางเข้า ซึ่ง สมาคมก็ได้ประสานขอพื้นที่แห่งใหม่กับ กกท. โดยจะไปอยู่ใกล้ๆ ประตูด้านหลังของสนามราชมังคลากีฬาสถาน ติดกับ สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ได้ประสานกับทาง กกท. แล้ว ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องรอ กกท. ประสานกับ กรมธนารักษ์ ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ว่า ติดขัดอะไรหรือไม่

พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องงบประมาณในการก่อสร้างสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แห่งใหม่นั้น ในเวลานี้ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด เพราะยังไม่ชัดเจนว่า จะต้องย้ายเมื่อไหร่ งบประมาณที่นำมาก่อสร้าง ส่วนหนึ่งทำโครงการของสนับสนุนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในหมวดโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีตั้งไว้ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 60.5 ล้านบาท) รวมกับเงินของสมาคมกีฬาฟุตบอล

นายกลูกหนังไทยกล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ที่ยังหาที่ดินไม่ได้นั้นว่า เดิมเล็งไว้ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จะขอแบ่งเช่าจาก เทศบาลเมืองเพชรบุรี อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กำลังมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเพชรบุรีและนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม ก็ต้องรอให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นเสียก่อน

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.