Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

แกร่งพอคว้าแชมป์? ส่องไลน์อัพบาร์ซ่าฤดูกาลใหม่ในวันที่ไร้เมสซี่ – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

นับเป็นข่าวร้ายของ บาร์เซโลน่า เมื่อต้องปล่อยสตาร์ประจำทีมอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ ออกไปแบบไม่เต็มใจ หลายคนคงนึกไม่ออกว่าทีม “เจ้าบุญทุ่ม” ที่ไม่มี เมสซี่ หน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้วและสโมสร, ตัวกุนซือ และเหล่านักเตะก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป พวกเขายังมีภารกิจในการทวงบัลลังก์แชมป์ลาลีกาคืนมารวมถึงฟุตบอลถ้วยยุโรปด้วย น่าสนใจว่า โรนัล คูมัน จะจัดทัพอย่างไรในวันที่ไร้ เมสซี่ พวกเขาจะมีศักยภาพพอต่อกรกับ เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด หรือไม่

คงแผนเดิม 4-3-3 

    มาร์ค อังเดร แทร์ ชตีเก้น ยังคงเป็นนายทวารมือหนึ่งของทีม แต่เนื่องจากเขาต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บจากการผ่าตัดหัวเข่าทำให้คาดว่าจะกลับมาอีกทีในเดือนกันยายน กลายเป็นโอกาสให้มือสองอย่าง เนโต้ ได้โชว์ฝีมือ

    ขยับมาที่แผงแบ็กโฟร์ เริ่มจากแบ็กขวา แซร์จินโญ่ เดสต์ น่าจะได้เป็นตัวจริงยาวๆในบาร์ซ่าชุดนี้ โดยฤดูกาลที่แล้วเขาลงเล่นรวมทุกรายการถึง 41 นัด อย่างไรก็ตามด้วยสถิติแอสซิต์ครั้งเดียว เลยเป็นคำถามว่าเขาดีพอหรือไม่ นี่อาจเป็นเหตุผลให้ทีมเซ็นสัญญา เอแมร์ซอน แบ็กขวาชาวบราซิเลียนเข้ามาช่วงซัมเมอร์นี้ เราน่าจะได้เห็นการแย่งตำแหน่งแบ็กขวากันสนุกแน่ ส่วนแบ็กซ้ายคงไม่มีใครเจ๋งเท่ากับ จอร์ดี้ อัลบา แล้ว

    ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก คนที่การันตีตัวจริงแน่ถ้าหากฟิตสมบูรณ์คือ เคราร์ด ปิเก้  ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งน่าจะเป็นของนักเตะใหม่อย่าง เอริค การ์เซีย ที่เซ็นสัญญามาจาก แมนฯ​ซิตี้ ด้วยค่าตัวฟรี เขามีโอกาสได้ลงเล่นทั้ง ยูโร และ โอลิมปิก มาด้วย น่าจะเป็นส่วนสำคัญในแนวรับบาร์ซ่าฤดูกาลนี้

    ในแดนกลาง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ยังคงทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวโฮลดิ้งเช่นเคยหลังจากทำผลงานได้สุดยอดในฟุตบอลยูโร 2020 ที่ผ่านมา พร้อมประสานงานกับคู่กองกลางอย่าง เฟรงกี้ เดอ ยอง และ เปดรี้ ซึ่งด้วยคุณภาพของทั้งสองน่าจะทำให้ทีมครองบอลเหนือคู่แข่งได้ไม่ยาก

    สามแนวรุกด้านหน้าถือว่าน่าสนใจมากเพราะ คูมัน มีตัวเลือกที่หลากหลายแม้ ลีโอเมล เมสซี่ จะเดินออกจากทีมไปแล้วก็ตาม สมมติว่าถ้าทุกคนฟิตและพร้อมลงสนาม เชื่อว่า เมมฟิส เดอปาย ดาวเตะป้ายแดงน่าจะได้ลงสนามตัวจริงแน่ โดยยืนเป็นกองหน้าในแผน “ฟอลส์ ไนน์” แต่ก็ยังมีกองหน้าธรรมชาติอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ และ มาร์ติน เบรธเวท เป็นตัวเลือกด้วย

    ขณะที่ อ็องตวน กรีซมันน์ จะยืนทางฝั่งซ้ายซึ่งสามารถสลับตำแหน่งกับ เดอปาย ขณะอยู่ในสนามได้ การที่ เมสซี่ ออกจากทีม บางทีอาจจะเป็นผลดีแก่ กรีซมันน์ ก็เป็นได้ เขาอาจจะได้เป็นศูนย์กลางของทีมเหมือนกับตอนที่อยู่ แอตเลติโก มาดริด

    ส่วนปีกขวา อุสมาน เดมเบเล่ ถ้าเขาฟิตสมบูรณ์ก็ถือเป็นนักเตะที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้คนหนุ่ง โดยฤดูกาที่แล้วเขามีส่วนร่วมกับประตูถึง 16 ลูก แบ่งเป็นยิง 11 ประตูกับ 5 แอสซิสต์

   หรือถ้าจัดแผนอีกแผนหนึ่งแบบพิจารณาจากความฟิตและอาการบาดเจ็บนักเตะตอนนี้ เนโต้ จะลงเฝ้าเสาตัวจริงเนื่องจาก แทร์ ชตีเก้น บาดเจ็บอยู่ ขณะตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก เอริค การ์เซีย อาจต้องเป็นตัวสำรองไปก่อนเนื่องจากเขากรำศึกหนักมาทั้งฟุตบอลยูโรและโอลิมปิก คูมันอาจจะแทนที่กองหลังด้วย โรนัลด์ อาเราโฆ่ เซนเตอร์แบ็กวัย 22 ปีซึ่งช่วงหลังเขาก็ลงเป็นตัวจริงบ่อยครั้งให้กับทัพบาร์ซ่า

    เปดรี้ ควรได้รับการพักผ่อนเพราะเขาลงเล่นมากถึง 73 นัด ไล่ตั้งแต่เปิดฤดูกาลที่แล้วมาจนถึงยูโรมาจนถึงโอลิมปิก ดังนั้น ริกี้ ปูอิก กองกลางดาวรุ่งวัย 21 ปีมีโอกาสจะได้ลงสนามช่วงต้นฤดูกาลจนกว่า เปดรี้ จะพร้อมใช้งาน

    มิดฟิลด์อีกหนึ่งคนอย่าง เฟรงกี้ เดอ ยอง เพิ่งได้รับบาดเจ็บน่องจากเกมอุ่นเครื่องกับ ซัลซ์บวร์ก ส่อแววจะชวดใช้งานช่วงต้นซีซั่น โชคดีที่บาร์ซ่ายังมี มิราเล็ม ปานิช กองกลางตัวเก๋าคอยสแตนบายอยู่

    เมื่อ เมสซี่ ออกจากทีมและ เซร์คิโอ อเกวโร่ บาดเจ็บอยู่ กองหน้าตัวเป้าธรรมชาติที่เหลืออยู่ในทีมมีเพียงแค่ มาร์ติน เบรธเวท เท่านั้น ซึ่งเขามีโอกาสออกสตาร์ทตัวจริงหลังจากโขกประตูใส่ ยูเวนตุส ในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุด 

    ส่วน เดอปาย จะถูกโยกไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย ขณะที่ริมเส้นฝั่งขวาเป็น อ็องตวน กรีซมันน์ แทนที่ของ อุสมาน เดมเบเล่ และ อันซู ฟาติ ที่ตอนนี้ยังมีอาการบาดเจ็บกันทั้งคู่

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.