โค้ชเตี้ย ประกาศ ฉลามชล ไม่กลัว บีจี เปิดหัวไทยลีก – สยามกีฬา
ภายหลังจากที่ ไทยลีก ได้ทำการเปิดเผย โปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ของ การแข่งขัน ฟุตบอล ไทยลีก ซีซั่น 2021/22 ออกมาอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทัพ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี รองแชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ 2020 ภายใต้การคุมทีม ของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ จะมีคิวเล่นในบ้าน พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมแชมป์เก่า ที่เพิ่งจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มามาดๆ
โดย “โค้ชเตี้ย” กล่าวหลังทราบโปรแกรมการแข่งขันในเกมแรก ว่า “ก็ถือว่าเป็นงานหนักสำหรับ ชลบุรี เอฟซี แน่นอน เพราะจะต้องเจอกับทีมแชมป์เก่า ซึ่งมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง มีความพร้อมมีเกม มีแมตช์ฟิตมาก่อน อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นงานที่ยากอยู่แล้ว แต่หากลองไปไล่ดูจริงๆ 5 เกมแรก ของทุกทีม หนักพอกัน เราเองก็หนัก เพราะมีทั้งเกม ที่จะต้องออกไปเยือน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี, ขอนแก่น ยูไนเต็ด และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด”
“ซึ่งตรงนี้ ผมคิดว่าจะเป็นการวัดศักยภาพ ของ ทีมเราไปในตัวเลยว่า เปิดหัวแบบนี้ กับ การแข่งขันระยะยาวแบบนี้ จะเป็นอย่างไร จะมียุบไหม เชฟทีมเพียงพอไหม นักเตะแต่คนเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้ จะทีมไหนๆ ชลบุรี เอฟซี พร้อมแล้วครับ ที่จะลงทำการแข่งขัน พร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นฤดูกาล ด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งของเรา เดินหน้าไปวัดรอยเท้า กับ บิ๊กทีม หรือ ทุกทีมในลีก เพื่อก้าวไปสู่จุดหมาย ที่วางเอาไว้ให้ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าโปรแกรมจะออกมาแบบไหน ยังไงเราก็พร้อมสู้”
สำหรับ สโมสร ชลบุรี เอฟซี จะมีโปรแกรมลงเล่นในเกม นักเปิดสนาม ศึกฟุตบอล ไทยลีก 2021/22 ซึ่งจะแข่งขันในระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย.นี้ พบกับ แชมป์เก่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม จะมีการแจ้งวัน และ เวลาสำหรับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เนื่องด้วยเหตุผลตามมาตรการการควบคุมในแต่ละพื้นที่ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต โดยไทยลีกจะมีการแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดดังกล่าวในประกาศต่อไป
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.