สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกประกาศ โดยมีเนื้อหาถึงการแข่งขันฟุตบอลลลีกอาชีพทุกลีก “ฟุตบอลไทยลีก” ว่า ยังไม่สามารถออกโปรแกรมการแข่งขันได้ โดยเนื้อหาที่ระบุถึงคือ
“เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ยังทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน และมาตรการขยายปิดกิจการหรือปิดสถานที่ 10 ประเภทกิจการ ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยมี “สนามกีฬา” อยู่ในประเภทกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ไทยลีก จึงขอแจ้งว่า ยังไม่สามารถประกาศโปรแกรมการประกบคู่แข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ” ฟุตบอลไทยลีก” (ทุกระดับ) ในเวลานี้ได้” แถลงการณ์ระบุ
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้สัมภาษณ์กับ“ คมชัดลึก” ว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ“ โควิด-19” เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้”ฟุตบอลลีกอาชีพ”ประจำฤดูกาล 2021 /2022 “ฟุตบอลไทยลีก” อยู่บนความอ่อนไหว ต่อการวางโปรแกรมแข่งขัน หรือ อาจต้องเลื่อนออกไป เพื่อลดการเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด19 อีกทั้งเป็นการแสดงออก ถึงการสนองตอบต่อแนวทางของรัฐ ที่เห็นควรให้งดหรือเลื่อนกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก
เดิม”ฟุตบอลลีกอาชีพ” หรือ ฟุตบอลไทยลีก ประจำฤดูกาล 2021 /2022 จะแข่งขันตั้งแต่วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม เป็นต้นไป แต่การแพร่ระบาดของโควิด19 ในประเทศ ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขอความร่วมมือไปยัง 88 สมาคมกีฬา รวมถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ระงับหรือเลื่อนหรือยกเลิกการจัดกิจกรรม ทำให้โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ฤดูกาล 2021/2022 จากที่กำหนดไว้วันเสาร์ที่ 31 กรกฏาคม เลื่อนไปเป็นวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม
พล.ต.อ.ดร.สมยศ กล่าวว่า แม้จะกำหนดโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ เป็นวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม แต่ส่วนตัวแล้ว ไม่สามารถยืนยันได้ว่า โปรแกรมจะเป็นไปตามกำหนดที่วางไว้หรือไม่ แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญอยู่ที่สถานการณ์ของโควิด 19 ที่จะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะดำเนินการใดๆ ก็ตาม จะอยู่ภายใต้แนวทางของภาครัฐ จะไม่ทำในสิ่งที่ฝืนต่อกระแสสังคม
หากถึงกำหนดระยะเวลา คือ 13 สิงหาคม สถานการณ์ในขณะนั้นจากโควิด- 19 ยังไม่ดีขึ้น ก็ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป ทั้งหมดที่ดำเนินการทั้งจากช่วงที่ผ่านมา จนไปถึงอนาคต ทุกอย่างที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ใช้เป็นแนวทางดำเนินการ จะอยู่ภายใต้แนวทางของภาครัฐ จะไม่ดำเนินการในสิ่งที่เรียกว่าฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด เพราะสถานการณ์ในขณะนี้ คือการร่วมมือกัน เพื่อหาทางหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19