Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

เวียดนามเฮ!รัฐบาลอนุมัติเตะนัดเหย้าที่มีดินห์ สเตเดี้ยม – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

หลังจากที่ทีมชาติเวียดนาม เตรียมหารังเหย้าในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดลือก รอบ 3 หรือรอบ 12 ทีมสุดท้ายในโซนเอเชีย โดยมีตัวเลือก 5 ประเทศก่อนหน้านี้ประกอบไปด้วย ไทย กาตาร์ ยูเออี เกาหลีใต้ และอุซเบกิสถาน ล่าสุดตามรายงาน รัฐบาลได้อนุมัติให้ใช้รังเหย้าอย่าง มีดินห์ สเตเดี้ยม เป็นสถานที่แข่งขันเกมเหย้าแล้ว

    ล่าสุด สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนามจึงมีคำตอบอย่างเป็นทางการต่อ ฟีฟ่าและ เอเอฟซี  เกี่ยวกับทางเลือกที่ 1 ที่จะจัดขึ้นที่สนาม มีดินห์ สเตเดี้ยม กรุงฮานอย นอกจากนี้ วีเอฟเอฟ ยังหาสนามสำรองอีก 1 สนามในประเทศที่เป็นกลางตามที่สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนามตั้งเป้าเลือกหนึ่งในห้าประเทศ ได้แก่ กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ,เกาหลีใต้ ,ไทย และอุซเบกิสถาน 

    ในการนี้ เวียดนามเอง ได้เสนอให้ใช้รูปแบบการแยกพิเศษภายใต้โมเดล “บับเบิ้ล” ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของหน่วยงานด้านสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่ามีการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ โควิด -19

    โดยที่นักเตะและทุกคนที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันจะได้รับอนุญาตให้เข้าและดำเนินการภายในพื้นที่ที่กำหนด แยกกันโดยไม่ต้องสัมผัสกับบุคคลภายนอก และโมเดลนี้ใช้สำเร็จแล้วที่ เหตุการณ์สำคัญระดับนานาชาติจำนวนหนึ่ง เช่น ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2022 ยูโร 2020 ล่าสุด และจะใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว

    ทั้งนี้เงื่อนไขการจัดการแข่งขันเป็นไปตามประเทศเจ้าภาพกำหนด แต่ต้องขึ้นอยู่กับการระบาดของ โควิด -19  ทางเวียดนามเองพร้อมที่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเงื่อนไขเอื้ออำนวยและสร้างผลดีที่สุดให้กับผู้เล่น ในระหว่างการแข่งขันผู้ชมสามารถรับชมได้แบบสดๆที่สนามแต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบการป้องกันการแพร่ระบาด

    สำหรับผู้ชมที่ต้องการชมการแข่งขันที่สนามจะต้องมีกฎระเบียบเฉพาะ เช่น ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด -19 หรือมีผลการทดสอบเป็นลบภายในระยะเวลาที่กำหนด ตามตารางการแข่งขันนัดแรกในบ้านของทีมชาติเวียดนาม จะพบกับทีมชาติทีมออสเตรเลียในวันที่ 7 กันยายน 64

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.