Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

ใครเด่น ใครดับ? ฟุตบอล ยูโร 2020 (รอบ 8 ทีม วันแรก) – Goal.com

Football Sponsored
Football Sponsored
  1. Getty

    #1 เด่น – ฆอร์ดี อัลบา

    แบ็คซ้ายตัวเก่งจาก บาร์เซโลนา เล่นได้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะเกมรุก เกมนี้ อัลบา สร้างโอกาสให้กับตัวเองด้วยการยิงไกลจากแถวสอง ประตูขึ้นนำของสเปนคือจังหวะที่เขาสับไกด้วยซ้าย จนทำให้ เดนิส ซากาเรีย สกัดเข้าประตูตัวเอง นอกจากนั้นฟูลแบ็ควัย 32 ปี ยังยืนเต็ม 120 นาทีในสนามและช่วยประคองพาสเปนผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในที่สุด

  2. Getty

    #2 เด่น – ยานน์ ซอมเมอร์

    จอมหนึบจาก มึนเช่นกลัดบัค เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ เขาเซฟจังหวะสำคัญช่วยให้ทีมที่เหลือ 10 คนในต่อเวลาพิเศษไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงระยะเผาขนของ เคราร์ด โมเรโน

    นอกจากนั้นการยืนตำแหน่งของเขาในเกมนี้ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม หนำซ้ำยังช่วยเซฟในช่วงยิงจุดโทษตัดสิน แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้สวิตเซอร์แลนด์สร้างปาฏิหารย์

  3. AFP

    #3 ดับ – เคราร์ด โมเรโน

    หากไม่นับ 3 ประสานในแดนหน้าในช่วงครึ่งแรกอย่าง ตอร์เรส , ซาราเบีย และ โมราต้า ที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังเพราะไร้บทบาทในเกมรุก

    เคราร์ด โมเรโน ที่ถูกส่งลงมาแก้ปัญหาปืนฝืดในนาทีที่ 54 กลับฝืดหนักกว่าเดิม ศูนย์หน้าจาก บียาร์เรอัล เป็นคนที่ได้โอกาสยิงมากที่สุดในทีม และมีโอกาสทองซัดจ่อๆ ถึง 2 ครั้ง แต่เขาไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งหากเขายิงได้สักประตูในเกม 90 นาที สเปนอาจจะไม่ต้องลากจนถึงช่วงดวลจุดโทษ

  4. #4 เด่น – จานลุยจิ ดอนนารุมมา

    ผู้รักษาประตูที่มีวัยเพียงแค่ 22 ปี แต่กลับโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเก๋าเกมเกินอายุ เมื่อโชว์เซฟสวยๆ ไปหลายครั้ง โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่โดนเบลเยียมโหมบุกเพื่อหวังตีเสมอ แต่เขาก็ยังเหนียวหนึบพอที่จะหยุดยั้งเกมรุกของเบลเยียมไว้ได้ ซึ่งถือเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทำไมทีมมหาเศรษฐีอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เตรียมจะทุ่มจ่ายค่าเหนื่อยราคาแพงเพื่อคว้าตัวเขาไปเฝ้าเสา

  5. Getty

    #5 เด่น – ลอเรนโซ อินซินเญ

    แนวรุกร่างเล็กจากนาโปลี ใช้ความคล่องตัวโจมตีเกมรับของเบลเยียมได้หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะการยิงประตูจากลูกเก่งคือการลากบอลทางกราบซ้ายตัดเข้าในแล้วปั่นโค้ง ๆ ด้วยขวาเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นประตูที่ทำให้อิตาลีขึ้นนำ 2-0 นอกจากนี้เขายังใช้ความขยันคอยลงไปช่วยเกมรับของอิตาลีได้ยอดเยี่ยมด้วย

  6. GettyImages

    #6 เด่น – เฌเรมี โดกู

    แม้ว่าเบลเยียมจะพ่ายแพ้ในเกมนี้ ทว่านี่ถือเป็นเกมแจ้งเกิดของปีกดาวรุ่งที่มีวัยเพียงแค่ 19 ปีอย่างแท้จริง เมื่อเขาใช้ความเร็วความคล่องตัวคอยปั่นป่วนกระชากบอลแหวกแนวรับของอิตาลีได้ตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะช็อตเรียกจุดโทษที่ไปโดน โจวานนี ดิ ลอเรนโซ ต้องหยุดกระแทกจนล้มลงไป ก่อนที่ โรเมลู ลูกากู จะยิงตีไข่แตกให้ปีศาจแดงแห่งยุโรป

  7. Getty

    #7 ดับ – ชิโร อิมโมบิเล

    แม้ว่าอิตาลีจะเป็นคว้าชัยชนะไปได้ แต่ฟอร์มส่วนตัวของกองหน้าจากลาซิโอถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง เมื่อเขาแทบจะไม่สามารถเก็บบอลเพื่อทำให้ทีมได้เปรียบในการเล่นเกมรุกได้เลย รวมถึงการตัดสินใจในพื้นที่อันตรายก็ดูจะผิดจังหวะไปหมด เพราะมักจะชอบฝืนเล่นบอลด้วยตัวเองมากเกินไป แทนที่จะจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า

  8. Getty

    #8 ดับ – นาเซอร์ ชาดลี

    ปีกจอมเก๋าวัย 31 ปี ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองแทน โธมัส เมอนิเยร์ ในนาทีที่ 70 ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน กลับต้องโชคร้ายมาประสบปัญหาบาดเจ็บจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว และต้องโดนเปลี่ยนตัวออกอย่างรวดเร็วเพียงแค่นาทีที่ 74 เท่านั้น โดยเป็น เดนนิส ปราต ซึ่งได้ลงสนามมาแทน

  9. #9 เด่น – เลโอนาร์โด้ สปินาซโซลา

    แบ็คซ้ายจากโรมา ยังคงทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทุกนัดที่ลงสนามในศึกยูโร 2020 โดยเฉพาะเกมที่อิตาลีชนะเบลเยียม 2-1 ซึ่งเขาได้โชว์การเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น โดยเฉพาะช็อตสกัดลูกยิงจ่อ ๆ ไม่กี่หลาของ โรเมลู ลูกากู ซึ่งหากไม่มีเขามาบล็อกลูกนี้ อิตาลีก็อาจจะโดนตีเสมอไปแล้วก็ได้ ทว่าน่าเสียดายที่ช่วงท้ายเกมดันโชคร้ายบาดเจ็บที่ต้นขาซ้าย จนต้องถูกหามเปลออกจากสนามพร้อมกับที่เจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตาเลยทีเดียว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขาน่าจะหมดสิทธิ์ช่วยทีมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์นี้แล้ว

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.