Football Sponsored
Categories: ฟุตบอล

‘เจ้าชายจอร์จ’ ทรงร่วมเชียร์ทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลยูโร 2020 – Hello Magazine

Football Sponsored
Football Sponsored

กำลังเข้มข้นทีเดียวสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโร หรือ ‘ยูโร 2020’ โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ‘เจ้าชายวิลเลี่ยมและแคเธอรีน’ ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เสด็จพร้อมด้วย ‘เจ้าชายจอร์จ’ พระโอรสพระองค์โต ไปทอดพระเนตรการแข่งขันรอบ 16 คนสุดท้าย ระหว่างทีมชาติอังกฤษพบกับทีมชาติเยอรมนี ณ เวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

ช่วงก่อนเริ่มการแข่งขันเจ้าชายวิลเลี่ยม ดัชเชสแคเธอรีน และเจ้าชายจอร์จ ทรงร่วมร้องเพลง ‘ก็อด เซฟ เดอะ ควีน’ (God Save The Queen) ร่วมกับผู้ชม และทีมชาติอังกฤษ โดยเจ้าชายจอร์จฉลองพระองค์ชุดสูทจับคู่กับเนคไทลายทาง เช่นเดียวกับพระบิดา ขณะที่ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงแสดงถึงการสนับสนุนทีมสิงโตคำราม ด้วยการฉลองพระองค์เบลเซอร์สีแดง ซึ่งเป็นสีที่แฟนบอลใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเชียร์ทีมชาติอังกฤษ

นอกจากดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และพระโอรส ในการแข่งขันนัดนี้ยังมีซูเปอร์สตาร์อดีตทีมชาติอังกฤษอย่าง ‘เดวิด แบคแฮม’ และนักชื่อดัง ‘เอ็ด ชีแรน’ เดินทางมาร่วมเชียร์ทีมสิงโตคำรามด้วย ก่อนทีมชาติอังกฤษเอาชนะทีมชาติเยอรมนีด้วยคะแนน 2-0 ประตู ท่ามกลางความดีใจของกองเชียร์ในสนามรวมถึงเจ้าชายจอร์จที่ทรงแย้มพระสรวลอย่างทรงพระเกษมสำราญเมื่อทีมชาติอังกฤษสามารถคว้าชัยเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ครั้งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เจ้าชายวิลเลี่ยม ซึ่งเป็นประธานของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ เสด็จไปทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 โดยครั้งแรกเสด็จทอดพระเนตรการแข่งขันระหว่างทีมชาติอังกฤษกับสาธารณรัฐเช็ก และเป็นทีมชาติอังกฤษที่สามารถชิงเข้ารอบ 16 สุดท้ายด้วยสกอร์ 1-0 ประตู

PHOTOS: Kensington Palace, Getty Image

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.