“ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ประเดิมศึกยูโรหนนี้ ด้วยการเฉือนชนะ เยอรมนี 1-0 ตามด้วยการเจ๊ากับ ฮังการี 1-1 ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเสมอกับ โปรตุเกส 2-2 ทำให้มี 5 แต้ม ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม F
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เฮดโค้ชของทีม จะไม่มี อุสมาน เดมเบเล่ และ ลูก้าส์ ดีญ ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของแข้งหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เอเดรียง ราบิโอต์, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ, มาร์คัส ตูราม และ โตมาส์ เลอมาร์ ขณะที่แข้งแกนหลักที่เหลือ ยังคงฟิตสมบูรณ์ พร้อมเป็นตัวเลือกในเกมนี้
แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาเอล วาราน, เพรสเนล คิมเพมเบ้ และ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ หากฟิตทันลงสนาม ส่วนแดนกลางส่ง ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ เอเดรียง ราบิโอต์ ลงประสานงานกัน โดยมี อองตวน กรีซมันน์ คอยปั้นเกมรุกให้ คาริม เบนเซม่า และ คิลียัน เอ็มบัปเป้ ไล่ล่าตาข่าย
“แดนนาฬิกา” ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ออกสตาร์ทศึกยูโร ด้วยการเจ๊ากับ เวลส์ 1-1 ต่อด้วยการพ่ายให้กับ อิตาลี 0-3 ก่อนที่จะเอาชนะ ตุรกี 3-1 ในเกมนัดสุดท้าย ทำให้มี 4 แต้ม เท่ากับ เวลส์ แต่มีประตูได้เสียเป็นรอง 2 ลูก จึงทำให้จบในอันดับ 3 ของกลุ่ม A แต่นั่นก็ยังดีพอที่จะผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช กุนซือของทีม จะมีขุมกำลังแบบเต็มอัตราศึก ไม่มีแข้งรายใดได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ทำให้เตรียมส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามกันแบบพร้อมเพรียง
มาริโอ กาฟราโนวิช กับ บรีล เอ็มโบโล่ จะยืนเป็นคู่ศูนย์หน้า โดยมี เชอร์ดาน ชากิรี่ เป็นจอมทัพในเกมสร้างสรรค์เกมรุก ขณะที่ กรานิต ชาก้า และ เรโม ฟรอยเลอร์ จะคอยคุมเกมในแดนกลาง ส่วนแนวรับใช้ นิโก้ เอลเวดี้, ฟาเบียน แชร์ และ มานูเอล อาคานจี ยืนเป็น 3 เซนเตอร์
ฝรั่งเศส : อูโก้ ยอริส (GK), ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาเอล วาราน, เพรสเนล คิมเพมเบ้, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ, ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เอเดรียง ราบิโอต์, อองตวน กรีซมันน์, คาริม เบนเซม่า, คิลียัน เอ็มบัปเป้
สวิตเซอร์แลนด์ : ยานน์ ซอมเมอร์ (GK), นิโก้ เอลเวดี้, ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อาคานจี, เควิน เอ็มบาบู, กรานิต ชาก้า, เรโม ฟรอยเลอร์, ริคาร์โด้ โรดริเกซ, เชอร์ดาน ชากิรี่, บรีล เอ็มโบโล่, มาริโอ กาฟราโนวิช
ฝรั่งเศส
สวิตเซอร์แลนด์
แชมป์โลก 2018 คว้าชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นในรอบแรก ทว่ามันก็ยังเพียงพอให้พวกเขาคว้าแชมป์กลุ่มมาได้สำเร็จ ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ ต้องลุ้นหนักพอสมควร กว่าที่จะผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ลำดับแรก
แม้ว่าด้วยชื่อชั้น ดีกรี รวมถึงศักยภาพของตัวผู้เล่น ทัพตราไก่จะเหนือกว่าแทบทุกประตู แต่การพบกับสวิตเซอร์แลนด์นั้น จะไม่ใช่งานง่ายของพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะจากสถิติการพบกัน 5 นัดหลัง ฝรั่งเศสสามารถเอาชนะได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และเสมอกันไปถึง 4 ครั้ง
คาดว่าเกมนี้ ขุนพลจากแดนนาฬิกา น่าจะมาแบบเน้นรัดกุม แบบปลอดภัยไว้ก่อน ขณะที่ ฝรั่งเศส จะเป็นฝ่ายเป็นเกมรุกเข้าใส่ แต่พวกเขาก็จะต้องระวังจังหวะสวนกลับด้วยเช่นกัน ซึ่งเชื่อว่า ทั้ง 2 ทีมจะสู้กันได้อย่างสนุกสูสี อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วยังมองว่า ด้วยแดนกลางที่แน่นกว่า รวมทั้งตัวรุกที่จัดจ้านกว่า น่าจะช่วยให้ทีมจากแดนน้ำหอม เป็นฝ่ายคว้าชัย และผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ แต่ก็อาจจะต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก
This website uses cookies.